วันที่ 9 กันยายน 2567 เวลา 13.00 น. นางรพีพร กลั่นเนียม รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง ในโครงการผลิตและเผยแพร่บทบาทภารกิจกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ผ่านสื่อ ปี 2567 ระหว่างวันที่ 9-10 กันยายน 2567 ในพื้นที่จังหวัดระยอง
นางรพีพร กลั่นเนียม รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์มีภารกิจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ โดยการนำระบบบัญชีมาใช้บริหารจัดการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความโปร่งใส ลดความเสี่ยง ซึ่งสมาชิกจะได้รับประโยชน์สูงสุดโดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสหกรณ์ อย่างโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร FAS ที่ได้รับการออกแบบให้ครอบคลุมธุรกิจของสหกรณ์ในทุกๆ ด้าน และมีความทันสมัย ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานและมีระบบข้อมูลทางบัญชีที่ได้มาตรฐานสามารถปิดบัญชีประจำปีได้อย่างรวดเร็ว จึงนับว่าเป็นเครื่องมือในการสร้างความแข็งแกร่งทางบัญชีให้กับสหกรณ์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ยังได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ คือ Smart4M ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรม FAS ให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมของคนในสังคมปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์สามารถตรวจสอบความแม่นยำข้อมูลทางบัญชีและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของสหกรณ์ได้ทันท่วงที ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในระบบสหกรณ์อีกด้วย
ด้านนายวัลลภ ยั่งยืน ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่ได้นำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาใช้อย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า สหกรณ์ฯ เป็นสหกรณ์ประเภทสหกรณ์การเกษตร จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557 มีจำนวนสมาชิกแรกตั้ง 97 คน เงินทุน 1,223,700 บาท ผลการดำเนินธุรกิจ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2567 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 187.52 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 5 ธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจสินเชื่อ 75.55 ล้านบาท 2. ธุรกิจรับฝากเงิน 67.02 ล้านบาท 3. ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย 13.45 ล้านบาท 4. ธุรกิจรวบรวมผลผลิต 31.43 ล้านบาท 5. ธุรกิจแปรรูป 79,200 บาท ภายใต้จำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 431 คน มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 133.50 ล้านบาท มีสินทรัพย์ทั้งสิ้นประกอบด้วย เงินให้กู้ยืมสุทธิ 112.81 ล้านบาท มากที่สุด รองลงมาเป็นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 15.68 ล้านบาท การจัดหาเงินทุนมาจากแหล่งเงินทุนภายในเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วย เงินรับฝากจากสมาชิกมากที่สุด 84.57 ล้านบาท รองลงมาเป็นทุนของสหกรณ์ 33.76 ล้านบาท ประกอบด้วยทุนเรือนหุ้น 25.84 ล้านบาท กำไรสุทธิประจำปี 3.40 ล้านบาท ปัจจุบันอัตราการเติบโตทุนของสหกรณ์ 23.81% สหกรณ์มีความสามารถจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ทุกปี
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า การที่สหกรณ์ฯ ดำเนินงานด้านการบริหารทางการเงินและการควบคุมระบบภายในที่มีประสิทธิภาพ เป็นเพราะสหกรณ์ฯ มีการใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง เช่น โปรแกรมระบบสมาชิกและระบบเงินให้กู้ ใช้มาเป็นเวลา 10 ปี โปรแกรมระบบสินค้า ใช้มาเป็นเวลา 5 ปี โปรแกรมระบบเงินรับฝาก ใช้มาเป็นเวลา 10 ปี และโปรแกรมระบบบัญชีแยกประเภท ใช้มาเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยให้สะดวก รวดเร็ว ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ลดปริมาณผู้ปฏิบัติงาน มีเอกสารหลักฐานที่เชื่อถือได้ มีฐานข้อมูลทางบัญชีครบถ้วนเป็นปัจจุบัน ลดความผิดพลาดของการปฏิบัติงานตรวจสอบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สหกรณ์ยังมีการส่งเสริมให้สมาชิกใช้แอปพลิเคชั่น SmartMember เพื่อจะได้ตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา จึงทำให้สมาชิกเชื่อมั่นในความโปร่งใสของสหกรณ์ ส่งผลให้สหกรณ์ฯ มีความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ สหกรณ์ยังเข้าร่วมโครงการ THINK & DO TOGETHER บูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์อย่างยั่งยืน โดยการระดมความคิดเห็นระหว่างสหกรณ์ กรรมการ ผู้จัดการ ผู้ตรวจสอบกิจการและผู้ตรวจการของสหกรณ์ พิจารณาการบริหารความเสี่ยง กำหนดกิจกรรมควบคุมภายในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระเบียบว่าด้วยมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและการรักษาความปลอดภัยด้านคอมพิวเตอร์ กำหนดและติดตามการปฏิบัติงานตาม พร้อมทั้งให้ผู้จัดการทำหน้าที่ Admin ในการควบคุมดูแลระบบงานและกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลในระบบเพื่อป้องกันผู้ที่ไม่มีอำนาจและไม่ได้รับอนุญาต เข้าถึงข้อมูลของสหกรณ์ได้
“ส่วนการวางแนวทางการพัฒนาในอนาคตยังคงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป อาทิ การส่งเสริมให้ใช้ Smart4m อย่างครบวงจร ประกอบด้วย แอปพลิเคชั่น SmartMe เพื่อให้สมาชิกใช้บันทึกบัญชีรับ-จ่ายครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ เพื่อวางแผนการใช้จ่าย และการประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมให้ใช้แอปพลิเคชั่น SmartMember เพื่อให้สมาชิกได้ตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิก ในการกำกับดูแลสหกรณ์ ลดการเกิดทุจริต ส่งเสริมการใช้แอปพลิเคชั่น SmartManage เพื่อให้คณะกรรมการใช้ในการตรวจสอบการดำเนินการของสหกรณ์ประจำวันอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการกำกับสหกรณ์อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสในการพัฒนาสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง และสหกรณ์มีแผนดำเนินงานโดยส่งเสริมให้ใช้แอปพลิเคชั่น SmartMonitor เพื่อให้ผู้ตรวจสอบกิจการใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบการดำเนินธุรกรรมของสหกรณ์ ให้สามารถวิเคราะห์ ตรวจพบรายการผิดปกติทันเหตุการณ์ เพื่อผลประโยชน์ของสมาชิก และจะนำโปรแกรมเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร CFSAWS:ss เข้ามาใช้ เพื่อให้สหกรณ์สามารถวิเคราะห์ เพื่อเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินและสามารถตรวจสภาพทางการเงิน เพื่อเฝ้าระวังทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และโปร่งใสต่อไปด้วย” นายวัลลภ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด จังหวัดระยอง จะเป็นสหกรณ์ขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพการบริหารจัดการทางการเงินและระบบควบคุมภายในที่ดี เป็นสหกรณ์ที่ได้รับรางวัลสหกรณ์ดีเด่นระดับภาคปี 2564 และได้รับการจัดชั้นผลการประเมินความเข้มแข็งของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรประจำปี 2566 ชั้น 1 ด้วยสหกรณ์มีการนำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจรและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาเป็นตัวช่วย ประกอบกับการดำเนินการภายใต้โครงการ THINK & DO TOGETHER บูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์อย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดี ยกระดับความสามารถในการบริหารจัดการด้านการเงิน การบัญชีและการควบคุมภายในให้กับสหกรณ์อีกด้วย