กรมชลฯ ขับเคลื่อนโครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงระบบชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย 8 โครงการ พื้นที่กว่า 2.7 ล้านไร่ ให้มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ปรับแผนการใช้น้ำอย่างทั่วถึง

วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงระบบชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย พื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากำแพงแสนและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม โดยมีนายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มผู้ใช้น้ำและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกิ่งดาว โรงแรมเวล อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การประชุมปัจฉิมนิเทศในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็น และสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาหรือผลกระทบต่างๆ อย่างแท้จริง เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขระบบชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้ายให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับวิถีชีวิตของชาวนครปฐม ซึ่งโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม สำหรับในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมนั้นมีระบบชลประทานครอบคลุมทั้งจังหวัด ประชาชนและเกษตรกรจะได้รับทั้งประโยชน์และผลกระทบจากการใช้น้ำ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมและน้ำทะเลหนุน จึงทำให้เกิดปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็มในแม่น้ำท่าจีนสูง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีสภาพภูมิสังคมหรือชุมชนเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างเห็นได้ชัด จากพื้นที่เกษตรกรรมกลายเป็นชุมชนเมือง และค่าความเค็มของน้ำทะเลเข้าพื้นที่การเกษตร ทำให้พืชผลทางเกษตรเสียหายในพื้นที่อำเภอสามพรานและอำเภอนครชัยศรี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกล้วยไม้ส่งออกต่างประเทศ และสวนส้มโอ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ สร้างรายได้ปีละหลายล้านบาท จึงขอฝากทุกภาคส่วนช่วยกันสะท้อนความคิดเห็น ปัญหาต่างๆ รวมทั้งข้อเสนอแนะ และอยากให้การประชุมในวันนี้ได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง เหมาะสม ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับประโยชน์เต็มที่ และเชื่อมั่นว่าโครงการปรับปรุงซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองจินดา ซึ่งมีอายุเก่าแก่เกือบ 50 ปี จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมและการรุกตัวของน้ำเค็มในแม่น้ำท่าจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพปัญหา สภาพการเกษตร และการใช้น้ำในปัจจุบัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล

นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการชลประทานแม่กลองใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง เริ่มดำเนินการเมื่อปี พ.ศ.2506 และก่อสร้างแล้วเสร็จปี พ.ศ.2533 ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด แบ่งพื้นที่เป็น 10 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ฝั่งขวา 2 โครงการ ฝั่งซ้าย 8 โครงการ พื้นที่ชลประทานรวมประมาณ 3.2 ล้านไร่ และจากการใช้งานโครงการมาแล้วหลายสิบปี ทำให้บริบทการใช้น้ำเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อาคารชลประทานต่างๆ เกิดการชำรุดเสียหาย ไม่สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มที่ กรมชลประทานจึงมอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงระบบชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย 8 โครงการ และโครงการท่าล้อ-อู่ทอง โดยพื้นที่ศึกษาปรับปรุงโครงการรวมกว่า 2.7 ล้านไร่ ด้วยระยะเวลาการศึกษา 720 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 และสิ้นสุดสัญญาจ้างวันที่ 24 เมษายน 2667 โดยผลการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพนมทวน ปัญหาหลักคือน้ำไหลไม่ถึงปลายคลองหรือได้รับน้ำไม่ทันกับรอบเวรการส่งน้ำ เนื่องจากระบบคลองส่งน้ำที่ค่อนข้างยาว การปรับปรุงที่สำคัญ เช่น ขยายหน้าตัดคลอง ก่อสร้างระบบชลประทานแบบสำรองน้ำกลางคืน ปรับปรุง/ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำปรับปรุงและขุดลอกคลองระบายน้ำ 2.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสองพี่น้อง พบปัญหาหลัก คือปัญหาน้ำท่วมบ่อย เฉลี่ยปีละกว่า 86,000 ไร่ ไม่มีคันกั้นน้ำริมคลองสองพี่น้อง คันคลองระบายน้ำต่ำ ไม่สามารถระบายน้ำช่วงน้ำหลากได้เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำนครชัยศรีสูง การปรับปรุงที่สำคัญ เช่น ก่อสร้างคันกั้นน้ำฝั่งขวาริมคลองสองพี่น้อง การก่อสร้างปรับปรุงอาคารบังคับน้ำและระบบสูบระบายน้ำริมแม่น้ำนครชัยศรี 3.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางเลน เป็นโครงการที่มีปัญหาน้ำท่วมมากที่สุด เฉลี่ยปีละกว่า 126,000 ไร่ คันกั้นน้ำริมแม่น้ำนครชัยศรีไม่สมบูรณ์และมีระดับต่ำ ไม่สามารถระบายน้ำได้ช่วงน้ำหลาก เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำนครชัยศรีสูง ส่งน้ำไม่ถึงปลายคลอง การปรับปรุงที่สำคัญ เช่น ปรับปรุงโดยก่อสร้างคันกั้นน้ำให้สมบูรณ์ ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำและระบบสูบระบายน้ำริมแม่น้ำนครชัยศรี ปรับปรุงคลองส่งน้ำและอาคารประกอบที่ส่งน้ำไม่ถึงปลายคลอง 4.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากำแพงแสน พบปัญหาปลายคลองส่งน้ำส่วนใหญ่ตัน ไม่เชื่อมกับคลองระบายน้ำ ไม่มีอาคารบังคับน้ำปากคลอง1ขวา-1ซ้าย-5ซ้าย , คลอง 4ซ้ายส่งน้ำไม่ถึงปลายคลอง และปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มติดกับแม่น้ำนครชัยศรี ทำการปรับปรุงโดยปรับปรุงคลองส่งน้ำ คลองระบายน้ำและอาคารประกอบ เสริมระดับคันคลองระบายน้ำและก่อสร้างระบบสูบระบายน้ำริมแม่น้ำนครชัยศรี 5.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม พบปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำท่าจีน และบริเวณชุมชนเมืองนครปฐม การขาดแคลนน้ำชลประทานบริเวณคลองจินดาในปีที่น้ำเค็มรุกตัวสูงในแม่น้ำท่าจีน คลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายยังเป็นคลองดินบางช่วง และดาดคอนกรีตชำรุดบางช่วง เป็นต้น การปรับปรุงที่สำคัญ เช่น ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำและระบบสูบระบายน้ำปากคลองระบายลงสู่แม่น้ำท่าจีน การปรับปรุงระบบส่งน้ำเพื่อนำน้ำจืดไปให้พื้นที่คลองจินดาช่วงน้ำเค็มรุกตัวสูงในแม่น้ำท่าจีน การปรับปรุงและซ่อมแซมคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย 6.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครชุม พบปัญหาการกระจายน้ำไม่ทั่วถึง ปัญหาน้ำเสียในคลอง ที่เกิดจากชุมชนเมืองและจากการทำปศุสัตว์ในพื้นที่โครงการ และปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากทางระบายน้ำเดิมถูกบุกรุก แนวทางแก้ไขที่สำคัญ เช่น เพิ่มระดับน้ำในคลองให้สูงขึ้น ขยายหน้าตัดคลอง ก่อสร้างระบบชลประทานแบบสำรองน้ำกลางคืน ปรับปรุงและก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ ขุดลอกบ่อยืมข้างคลอง 7.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรีฝั่งซ้าย ประสบปัญหาการส่งน้ำไปปลายคลองได้ปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำ เนื่องจากคลองส่งน้ำ 11L-LMC มีผู้ใช้น้ำเพื่อการเกษตรและผลิตน้ำประปาของการประปาภูมิภาค ปลายคลองส่งน้ำเป็นคลองดินมีการรั่วซึมสูงและมีวัชพืชปกคลุมทำให้น้ำไหลไม่สะดวก แนวทางแก้ไขที่สำคัญ เช่น ปรับปรุงคลองส่งน้ำ ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ ก่อสร้างประตูระบายน้ำ ปรับปรุงคลองระบายน้ำรางเตาอิฐ 8.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดำเนินสะดวก พบปัญหาอาคารควบคุมน้ำชำรุด ทำให้ไม่สามารถควบคุมการไหลของน้ำในโครงการทั้งระบบได้ สภาพท้องคลองสูงต่ำไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน การรุกตัวของน้ำเค็ม การปล่อยน้ำเสียจากกิจกรรมการทำประมงลงสู่คลองระบายน้ำ การปรับปรุงที่สำคัญ เช่น ก่อสร้าง/ปรับปรุงอาคารบังคับน้ำ ขุดลอกคลอง และสำหรับโครงการท่าล้อ-อู่ทอง จากคลองท่าล้อ-อู่ทอง มีแนวกีดขวางการระบายน้ำตามธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและปลายคลองไม่เชื่อมกับคลองระบายน้ำ ระบบสูบน้ำและส่งน้ำชลประทานชำรุดเสียหาย และยังก่อสร้างไม่ครอบคลุม การปรับปรุงที่สำคัญ เช่น การปรับปรุงระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมริมและปลายคลองท่าล้อ-อู่ทอง ปรับปรุงซ่อมแซมและขยายระบบสูบและส่งน้ำชลประทาน รวมทั้งพัฒนาระบบสูบน้ำชลประทานด้วยไฟฟ้าที่มีศักยภาพอีกประมาณกว่า 84,000 ไร่

นายสุรชาติ กล่าวอีกว่า โครงการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้ายทั้ง 8 โครงการ และโครงการท่าล้อ-อู่ทอง ได้รับฟังความคิดเห็นพร้อมข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโครงการตลอดระยะเวลาการศึกษา รวมประชุมรับฟังความคิดเห็น 4 ครั้ง ซึ่งการประชุมครั้งที่ 4 อยู่ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากำแพงแสน และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม โดยผลการศึกษามีความเหมาะสมตามหลักวิชาการ เหมาะสมกับสภาพภูมิสังคม โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับของผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ ซึ่งกรมชลประทานจะนำผลการศึกษานี้ไปดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ พร้อมทั้งจะบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้ทุกภาคส่วนได้รับน้ำที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

“การประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในหลายๆ เวที ทางบริษัทที่ปรึกษาจะต้องนำเรื่องราวต่างๆ มาผนวกให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนนับว่าเป็นสิ่งที่ดี รวมทั้งภาครัฐที่อาจมองเห็นถึงปัญหาร้อยเปอร์เซ็นต์ คนในพื้นที่จะสะท้อนปัญหาได้ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ประตูระบายน้ำคลองจินดา เพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรุงระบบให้ดีที่สุด ซึ่งกรมฯ จะเดินหน้าขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนหรือกลุ่มผู้ใช้น้ำให้เกิดความเข้มแข็ง ได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกรมฯ มีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงกำกับดูแลกลุ่มผู้ใช้น้ำต่างๆ ให้ใช้น้ำอย่างสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” นายสุรชาติ กล่าวทิ้งท้าย