วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. เจ้าหน้าที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการบ้านปายสองแง่ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีไปมอบแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จำนวน 58 นาย ประกอบด้วย กองร้อยทหารราบที่ 1733 หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท และหมวดตำรวจตระเวนชายแดน 3361 กองร้อย ตชด.ที่ 336 โอกาสนี้ องคมนตรีเชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีไปกล่าว สร้างความปลื้มปีติ สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน เพื่อปกป้องประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะเดินทางไปยังโครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านดอยผักกูด ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวมอบให้แก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 12 ตัว ถุงพระราชทานมอบให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จำนวน 23 ถุง และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการฯ จำนวน 23 ถุง ต่อจากนั้นองคมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานของหน่วยงานร่วมดำเนินโครงการฯ และรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ
เมื่อวัน 4 มีนาคม 2549 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมีพระราชดำริให้พิจารณาพื้นที่ตั้งแต่หมู่บ้านปางคาม ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า ถึงหมู่บ้านปายสองแง่ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านโครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร และเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศชาติ กองทัพภาคที่ 3 สนองพระราชดำริโดยดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนขึ้น นำราษฎรซึ่งเป็นชนเผ่าลาหู่ จำนวน 23 ครัวเรือน ที่อยู่อาศัยอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่ให้มาอยู่รวมกัน โดยจัดการฝึกอบรม จัดให้มีที่ทำกิน สร้างความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาด้านสาธารณูปโภค เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของคนในชุมชนให้มีความพร้อมรองรับการพัฒนา ซึ่งจากการพัฒนาส่งผลให้ราษฎรมีรายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นทุกปีจากการเกษตร รับจ้างทั่วไป และค้าขาย โดยในปี 2566 ราษฎรมีรายได้ต่อครัวเรือน/ปี จำนวน 279,678 บาท ในปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 334,635 บาท นอกจากประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรแล้วยังก่อประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศอีกด้วย
องคมนตรีเชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
