เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับ สมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี
ร่วมด้วยนางวรัญญภรณ์ ชาลีรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ นายโกสินทร์ สืบประสิทธิ์วงศ์ นายกสมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย รวมถึงบุคลากรของสมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศ และบุคลากรของ สพฐ. เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นในการพัฒนา เด็กและเยาวชน ให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ จึงมีนโยบายในการส่งเสริม สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้เล่นกีฬา ดนตรี การออกกำลังกาย และร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างต่อเนื่องจนเป็นวิถีชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมวงโยธวาทิต เป็นกิจกรรมนันทนาการที่สร้างความสุข ความเพลิดเพลิน กิจกรรมดนตรีช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนสุขุม เยือกเย็น มีสมาธิ เสริมสร้างความมีระเบียบวินัย ความสามัคคีของหมู่คณะ นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาไปสู่การประกอบอาชีพได้ในอนาคต ผมขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ได้สนับสนุนโครงการดีๆ เช่นนี้ รวมถึงเป็นกำลังใจให้นักเรียนไทยทุกคนที่จะได้พัฒนาศักยภาพด้านดนตรีของตนเอง ตามความถนัดและความสนใจ และสามารถก้าวสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกได้ในอนาคต
ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา กล่าวว่า สพฐ. ได้ขับเคลื่อนงานภายใต้นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญกับการส่งเสริมนักเรียน ให้ได้เรียนรู้อย่างดีมีความสุข เป็นเลิศทั้งในด้านวิชาการ วิชาชีพ วิชาชีวิต ให้นักเรียนได้ค้นพบความชอบและความถนัดของตนเอง ซึ่งดนตรีก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ สพฐ. สนับสนุนมาโดยตลอด เพราะการเล่นดนตรีเป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงสร้างความสุนทรีให้เกิดในจิตใจ แต่การใช้กล้ามเนื้อสัมผัสเครื่องดนตรี จะส่งผลต่อปลายประสาท กระตุ้นการทำงานของสมอง นับเป็น “การออกกำลังกายสมอง” วิธีหนึ่ง เมื่อสมองปลอดโปร่ง ก็จะเอื้อต่อการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ อีกทั้งการเล่นดนตรีร่วมกันเป็นวง นักเรียนจะต้องเล่นเครื่องดนตรีของตัวเองให้ดี ประสานเสียงให้สอดรับ กับเครื่องดนตรีของเพื่อนๆ ร่วมวง จึงเป็นการฝึกความรับผิดชอบในตัวเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการรับฟังความคิดเห็นกันและกัน กิจกรรมวงโยธวาทิต จึงมีประโยชน์ในการพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์โดยแท้จริง และที่ผ่านมา วงโยธวาทิตนักเรียนของโรงเรียน สพฐ. หลายแห่งก็ได้พิสูจน์ความสามารถ โดยเข้าร่วมการประกวดเวทีนานาชาติ และคว้ารางวัลสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยมากมาย ดังนั้น เมื่อทราบว่าสมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย ขอลงนามความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียน สพฐ. จึงรู้สึกยินดีที่เด็กๆ ทั่วประเทศจะได้มีผู้สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งการเริ่มต้นที่งดงามของการพัฒนาและยกระดับคุณภาพเด็กและเยาวชนไทยต่อไป
“ทั้งนี้ ด้วยสมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การวงโยธวาทิตโลก (WMBO) และสมาพันธ์วงโยธวาทิตแห่งเอเชีย (AMBC) ได้ขอให้ สพฐ. จัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานขึ้นมา สพฐ. เห็นว่ากิจกรรมวงโยธวาทิตนอกจากจะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีระเบียบวินัย มีความรักสามัคคี รู้จักการทำงานเป็นทีม ซึ่งถือเป็นการปลูกฝังคุณลักษณะผู้เรียนให้เป็นไปตามนโยบาย และยุทธศาสตร์ของชาติแล้ว การเปิดโอกาสและร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่จะช่วยพัฒนาทักษะแก่ครูและนักเรียนถือเป็นเรื่องสำคัญประการหนึ่ง จึงเห็นควรสนับสนุนโครงการความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานนี้ และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือในด้านอื่นๆ ร่วมกันอีกในอนาคต” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ด้านนายโกสินทร์ สืบประสิทธิ์วงศ์ กล่าวว่า สมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย ตะหนักดีว่าเด็กและเยาวชนไทยมีความรู้ ความสามารถ และทักษะทางดนตรี สามารถเข้าร่วมการประกวดในเวทีระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง สมาคมจึงมีความประสงค์ให้กิจกรรมวงโยธวาทิตได้รับการเผยแพร่สู่เยาวชนในวงกว้าง จึงขอความร่วมมือมายัง สพฐ. เพื่อขอรับการสนับสนุนให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนในสังกัด สพฐ. ได้รับการพัฒนาทักษะวงโยธวาทิต และมีโอกาสเข้าร่วมประกวดในระดับชาติ และระดับนานาชาติ พร้อมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนในสังกัด สพฐ. ได้มีระเบียบวินัย รู้จักการทำงานเป็นทีม และเกิดความรักความสามัคคีในหมู่คณะอีกด้วย
