โรงเรียนวัดหนองพะวา แจ้งไม่ได้ปิดเรียน ‘เพิ่มพูน’ มั่นใจผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่จัดการได้เหมาะสม หากเกิดเหตุติดขัด ต้นสังกัดพร้อมสนับสนุนทันที

29 พฤษภาคม 2567/ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีข้อห่วงใยถึงผลกระทบจากเหตุไฟไหม้โรงงานวิน โพรเสส ในชุมชนหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อ 22 เม.ย.2567 กลายเป็นภัยร้ายแรงที่ปล่อยมลพิษปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ทำให้ชาวบ้านใน ต.บางบุตร และใกล้เคียงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกลิ่นของสารเคมีอันตราย เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ หลายคนมีอาการแสบตา แสบจมูก เกิดอาการอักเสบ ตามผิวหนัง และนักเรียนก็ไม่สามารถมาโรงเรียนได้ตามปกติด้วย

รมว.ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ติดตามความคืบหน้ากรณีนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับวันเปิดภาคเรียน 1/2567 ซึ่งโรงเรียนวัดหนองพะวา ที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (อัคคีภัย) ได้ประกาศปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนวัดหนองพะวา โดยให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 มาเรียนแบบ On Site ที่โรงเรียนโดยปฏิบัติตามมาตรการของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ส่วนนักเรียนชั้นอนุบาล 2 ,อนุบาล 3 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 ให้เรียนแบบ On Line, On Hand และ On Demand แต่ไม่ได้มีการปิดสถานศึกษาตามที่เป็นข่าว

“ที่จริงแล้วการตัดสินใจปิดสถานศึกษาเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน เป็นเรื่องที่ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถตัดสินใจได้ตามความเหมาะสมอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในเขตประสบสาธารณภัย ต้องปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด และจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนที่ไม่สามารถมาโรงเรียนได้ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของเด็ก หากมีความพร้อมในการจัดการเรียนออนไลน์ก็สามารถทำได้ หรือใช้รูปแบบ On Hand และ On Demand ทำใบงานส่ง เป็นต้น โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เด็กประถมที่อาจไม่สะดวกเรียนออนไลน์ ทั้งนี้ต้องชื่นชม ผอ.โรงเรียนวัดหนองพะวา ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เรียนเป็นหลัก และมั่นใจว่าคณะผู้บริหารโรงเรียนจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี” รมว.ศธ.กล่าว

อย่างไรก็ตามหากโรงเรียนวัดหนองพะวา หรือโรงเรียนใกล้เคียงเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้เรียน ขอให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และกำชับโรงเรียนในสังกัดให้แจ้งผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและผู้ปกครอง เฝ้าระวังและสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันภัยจากสารเคมี และให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระยะ หากมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากสารพิษที่เกินกำลังของโรงเรียนจะหามาใช้ได้ ให้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ โดยด่วน เพื่อรับการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม พวกเราจะจับมือไว้แล้วไปด้วยกันเสมอ