เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ปบช.ภ.5 พร้อม พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติการตาม “ยุทธการบุกบ้านอันธพาลเชียงใหม่” รวม 3 คดี คดีแรกจับกุมบุคคลต่างด้าว โดยปิดล้อมหอพักในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ 6 จุด โดยใช่กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย ซึ่งได้จับกุมผู้กระทำความผิดบุคคลต่างด้าว จำนวน 27 คน เป็นชาย 20 คน หญิง 7 คน ส่งดำเนินคดีตามกฏหมาย
คดีที่ 2 สภ.หางดง จับกุมหัวหน้าแก๊ง SOHOT คือ นายณัฐพงค์ หรือเฟรก คำแก้ว อายุ 17 ปีซึ่งเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อิ่นมา 7-8 คดี แล้ว และเคยใช้อาวุธปินข่มขู่ผู้อื่น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 35/3 หมู่ 11 ต.บ้านแหวน อ.หางดง ผลการตรวจค้นพบกระสุนปืนลูกซองขนาด12 จำนวน 2 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซองจำนวน 1 ปลอก ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้าชั้นบนข้างที่นอนผู้ต้องหาดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ว่ากระสุนปืนดังกล่าวได้มาจากนายวุฒิ ไม่ทราบสกุล ชาวไทยใหญ่ เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา จึงได้ดำเนินคดีข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมจับกุมกวาดล้างแก๊งบ้านบัง ที่มีความขัดแย้งกับแก๊ง SOHOT เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท และรุมทำร้ายประชาชนในชุมชนด้วย
คดีที่ 3 สภ.เมืองเชียงใหม่ จับกุมกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 6 ราย ซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ อายุ 18-20 ปี หลังรุมทำร้ายร่างกายนายประวิทย์ เพชรบริบูรณ์ อายุ 33 ปี ครูมวยค่ายไวท์แคท อ.หางดง บริเวณสะพานคลองแม่ข่า ต.ช้างคลาน อ.เมือง เป็นเหตุให้นายประวิทย์ ได้รับบาดเจ็บกระดูกมือหัก มีบาดแผลเย็บกว่า 10 เข็ม หลังก่อเหตุกลุ่มผู้ต้องหา ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามมาดำเนินคดีตามกฏหมาย จำนวน 5 รายแล้ว และยังหลบหนีอีก 1 ราย คาดหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว จึงแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยไม่มีที่พักหรืออาศัยเป็นหลักแหล่ง หลังดำเนินคดี ใช้มาตรการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
พล.ต.ท.กฤตธาพล กล่าวว่า ตำรวจภาค 5 ได้ขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็คลิสต์ กลุ่มวัยรุ่นป่วนเมือง และแก๊งอันธพาลต่างด้าว กว่า 20 กลุ่มแล้ว โดยดำเนินการจับกุมกวาดล้างแก๊งดังกล่าว จำนวน 9 คดีแล้ว หรือจับกุมแบบ 100 % ซึ่งบัญชีดำดังกล่าวมีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี กลุ่มละ 5-10 คนรวมกว่า 100 คน จำเป็นต้องเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรม ไม่ไปก่อเหตุอาชญากรรม สร้างความเดือดร้อนประชาชนอีก
“ภายหลังได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ ปะ ฉะ ดะ และเปิดยุทธการบุกบ้านอันธพาลเชียงใหม่ ส่งผลให้คดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับแก๊งเยาวชน และต่างด้าว มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ส่วนแก๊งขึ้นบัญชีดำ ที่ยังไม่ได้กระทำความผิด ถ้าก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะบุกไปจับกุมที่บ้านทันที หรือไม่เกิน 1 วัน เพื่อปราบปรามสร้างความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน ดังนั้นขอเตือน กลุ่มแก๊งดังกล่าว อย่าได้กระทำผิดกฏหมายใด ๆ ถ้าฝ่าฝืนดำเนินอย่างเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการ และเจ้าของหอพักให้เช่า พิจารณาคัดกรองคนเข้าทำงานและพักอยู่อาศัย ต้องเป็นบุคคลเข้าเมืองถูกต้องตามกฏหมาย มีใบอนุญาตทำงานเพื่อตรวจสอบประวัติ และป้องกันอาชญากรรมอีกทางหนึ่งด้วย” พล.ต.ท.กฤตธาพลกล่าว
ภายหลังแถลงข่าว นายประวิทย์ ครูมวยไทย ผู้เสียหายจากแก๊งเมียนมาร์ รุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้กล่าวขอบคุณ พล.ต ท.กฤษธาพล และเจ้าหน้าที่ ที่จับกุมแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีทันที สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินด้วย