วันที่ 28 มีนาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการติดตามและตรวจสืบข้อเท็จจริงเชิงลึก ในกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดไม่พอใจที่ครูในโรงเรียนนั่งเก้าอี้ของตน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนจัดซื้อเก้าอี้ใหม่มาทดแทน โดย สพฐ. ได้สั่งการ ผอ.เขตพื้นที่ เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลต่อ สพฐ. ภายใน 7 วัน นั้น
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว หลังจากมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียน มารายงานตัวและปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่โดยทันที ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน รวมทั้งให้ความคุ้มครองครู และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ล่าสุดทาง สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ได้รายงานผลการสืบข้อเท็จจริง พบว่า พฤติกรรมดังกล่าวของผู้อำนวยการโรงเรียน ถือเป็นกรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง เมื่อได้ผลสรุปแล้ว ก็จะดำเนินการทางวินัยกับบุคคลดังกล่าวตามระเบียบ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ซึ่งต้องรอสรุปผลการสอบต่อไป
“เรื่องสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงความปลอดภัยในสถานศึกษา เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเราไม่แบ่งแยกว่าเป็นผู้บริหารหรือระดับปฏิบัติการ เพราะทั้งครูและผู้บริหารต่างก็มีบทบาทและความสำคัญต่อการพัฒนาผู้เรียนและการศึกษาชาติ ต่างเป็นคนของ สพฐ. รวมเป็น OBEC One Team และเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพบว่ากระทำการที่ไม่เหมาะสมก็ต้องได้รับการพิจารณาโทษเป็นกรณีไป ทั้งนี้ หากพบเหตุที่ไม่เหมาะสมใดๆ ขอให้ส่งข่าวแจ้งเหตุมายัง สพฐ. เราพร้อมดำเนินทุกมาตรการเพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคน และมุ่งสู่การศึกษา “เรียนดี มีความสุข” ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” อย่างแท้จริง” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว