เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ที่โรง แรมวินทรี ซิตี้้รีสอร์ท เชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.เยาว ลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้น IFEC พร้อมนายประสิทธิ์ วงศาสวัสดิ์ นายเรวัตร์ วงศ์สวัสดิ์ และนายพลรัตน์ พรหมคุ้ม ทนายความ ได้ร่วมกันแถลงข่าว กลุ่มผู้ถือหุ้นบริษัท IFEC ที่มีความเกี่ยวข้องกับโรงแรมดาราเทวี และการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มดังกล่าว ที่เกิดความเสียหายจากการบริหารโรงแรมดังกล่าว และกรณีเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า พร้อมนำเอกสารหลักฐาน มาเปิดเผยและแสดงต่อสื่อมวลชน ว่า

น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวว่า โรงแรมดาราเทวี หลังประสบปัญหาและต้องขายทอดตลาดไป ทางกรมบังคับคดี ได้ดำเนินการประมูลขาย ซึ่งครั้งแรก บริษัท IThermal ประมูลไปได้ 2,100 ล้านบาท หลังจากนั้นได้ยุติไป ไม่ได้ชำระเงินทั้งหมด ต่อมากรมบังคับคดีได้นำมาประมูลใหม่ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 66 มีการยกป้ายประมูล 69 ครั้ง สุดท้ายทาง IThermal ชนะประ
มูลอีกครั้ง ในราคา 3,590 ล้านบาท โดยมีบริษัท สยามเอสเตท ดาราเทวี เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมลงทุน การประมูลดังกล่าว ซึ่งเป็นการ ประมูลเฉพาะที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวม 18 แปลง จำนวน 80ไร่ มีสิ่งปลูกสร้าง 60 อาคารไม่รวมทรัพย์สินอื่นใด ถือว่าทรัพย์สินดังกล่าว เป็นของ IFEC อยู่ เนื่องจาก IThermal เป็นบริษัทลูกของ IFEC ซึ่งถือหุ้น 45 % ส่วนสยามเอสเตทดาราเทวี ถือหุ้น 55 % หลังประมูลไปได้ ไม่ได้ดำเนินการอะไร กระทั่ง พ.ค. 67 เริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เป็นตลาดนัดชุมชนหรือกาดดาราเทวี
เรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้น คือ สยามเอสเตท ดาราเทวี แม้ได้ที่ดินกับอาคารไปแล้ว ซึ่งบริษัท IThermal ประมูลไปได้ แต่ยังเจ้าหนี้ของ IThermal ไปแจ้งต่อกรมบังคับคดี เพื่อขอยึดหรืออายัดทรัพย์ ทำให้ทรัพย์สินดังกล่าว อยู่ที่กรมบังคับคดี รวมกว่า 20,000 รายการ อาทิ เครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว อุปกรณ์ต่างๆ นอกจากตัวอาคารแล้ว ได้มีการทำบัญชีไว้หมด ต่อมาทางกรมบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้มาสำรวจทรัพย์สินจากการยึดทรัพย์พร้อมกับติดป้ายของกรมบังคับคดีว่าห้ามใช้ จำหน่าย จ่ายแจก เคลื่อนย้าย ต่อมา สยามเอสเตท ดาราเทวี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของดาราเทวี ได้นำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และอุปกรณ์ ไปให้กับผู้เช่าที่มาเช่าพื้นที่ของดาราเทวี เพื่อนำไปใช้ ทั้งที่ทรัพย์สินดังกล่าว ถูกกรมบังคับคดี ได้ยึดไว้แล้วและทรัพย์สิน ไม่ได้เป็นของสยามเอสเตท ดาราเทวี แต่อย่างใด
ต่อมาก็ได้ถูกกล่าวหาว่า ทางกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC กลั่นแกล้งกลุ่มที่ไปเช่าพื้นที่ จึงขอชี้แจงว่า ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่การนำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ ถือว่าผิด อีกทั้งกรมบังคับคดีก็จะต้องนำขายทอดตลาดก่อน เพื่อนำเงินมาใช้ให้กับเจ้าหนี้ รวมถึงผู้ถือหุ้น IFEC ที่เป็นเจ้าของด้วย จึงอยากให้ร้านค้าต่างๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว ของต่างๆ ที่เป็นของตกแต่งซึ่งอยู่ภายในตัวอาคารของโรงแรม และห้องประชุมของโรงแรมดาราเทวี ไปใช้ ให้คิดถึงเรื่องนี้
ประกอบกับการนำของที่เป็นของกลุ่มเจ้าหน้าที่ และผู้ถือหุ้น IFEC ไปให้ผู้ที่ผู้เช่าพื้นที่ใช้ นอกจากจะผิดกฎหมายของกรมบังคับคดีแล้ว ยังผิดต่อผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ของ บริษัท IThermal ที่ได้แจ้งยึดไว้ด้วย เพราะเงินจากการเช่าและทรัพย์สินที่ถูกนำออกไป ไม่ได้ถูกนำมาใช้หนี้ หรือถูกจัดการมายังฝั่งของกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ที่เป็นผู้ร่วมลงทุนเลย
การที่ผู้ถือหุ้น IFEC ออกมาเรียกร้องและชี้แจงในครั้งนี้ เพราะทุกคนก็นำเงินมาร่วมลงทุน แต่การนำโรงแรมระดับ 5 – 6 ดาว มาใช้ลักษณะนี้ รวมถึงการเปิดจากโรงแรมระดับนานาชาติ ร้านอาหารต่างประเทศ แต่เหลือเพียงแค่กาดดาราเทวี แล้วกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ลงทุนไปจะได้เงินกลับคืนเมื่อไหร่จากการบริษัทแบบนี้
ขณะเดียวกันยังพบว่า อาคารต่างๆ หลายหลัง ได้ถูกดัดแปลงสภาพไป ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า เป็นเรื่องที่ผิด เพราะการก่อสร้าง ต่อเติม ปรับ ปรุงโครงสร้าง ตามกฎหมายจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยพบว่า ยังไม่ได้มีการขออนุญาตในเรื่องดังกล่าว ก็อยากให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอ หรือทางเทศบาล เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย หากยังทำปล่อยปละละเลยหน้าที่ ก็จะร้องถึง ปปช. ในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และยังอีกว่าพื้นที่หลายแห่งถูกปล่อยให้เสื่อมโทรม ระบบสาธารณูปโภค ไม่ได้มาตรฐาน
สุดท้ายเรื่องไฟไหม้อาคารสปา ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้กันมาก ว่าสาเหตุมาจากอะไร ตอนแรกบอกว่าอาคารหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้นานแล้ว คือไฟฟ้าเป็นศูนย์ ต่อมาก็ออกข่าวอีกว่าได้ตรวจสอบแล้ว มีไฟแค่ดวงเดียวเพื่อส่องสว่าง เป็นไฟแบบปิงปอง ไม่ได้ทำการต่อสายไฟ จากนั้นได้ให้ข่าวอีกครั้งว่าเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติ ทั้งที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยังไม่ได้ระบุเลยว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร มีการให้ข้อมูลเปลี่ยน แปลงไปตลอด กระทั่งทางกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ซึ่งได้พบคลิปจากสื่อออน ไลน์ว่า อาคารสปาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวนั้น คล้ายกับมีการติดตั้งไฟส่องสว่างไว้ที่ด้านบนอาคาร ด้านใต้อาคาร และใต้หลังคา มีสายไฟโยงให้เห็นชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้ตรวจสอบ โดยไปยื่นหนังสือตรวจสอบวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการ อาจทำเรื่องฟ้องไปยังสำนักงาน ป ป.ช.ด้วย
ทั้งนี้ทรัพยสินที่มีการบันทึกเป็นหลักฐาน รวมกว่า 20,000 รายการนั้น เป็นทรัพย์สินที่รอการขายทอดตลาดตามคำสั่งกรมบังคับคดี เบื้องต้นประเมินมีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เพื่อนำมาชดใช้แก่่เจ้าหนี้ หรือผู้ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าวต่อไป