โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ดิน น้ำ และป่าไม้ พร้อมส่งเสริมการเกษตรให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยพัฒนาพื้นที่เพื่อฟื้นฟูดิน เช่น การใช้หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำตามแนวพระราชดำริ การปรับปรุงดินลูกรังด้วยมูลไส้เดือนดิน การปลูกพืชแบบผสมผสาน การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริในพื้นที่อับฝน รวมถึงการพัฒนาป่าไม้โดยฟื้นฟูป่าตามแนวพระราชดำริ คือการปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ทำให้พื้นที่ป่าเปลี่ยนจากป่าเต็งรังเป็นป่าเบญจพรรณ ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเกษตร จัดอบรมเผยแพร่องค์ความรู้พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรในพื้นที่หมู่บ้านรอบโครงการ จำนวน 12 หมู่บ้าน รวมถึงประชาชนทั่วไป สามารถยกระดับเกษตรกรในพื้นที่หมู่บ้านรอบโครงการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริถึง 10 แห่ง ทั้งด้านเกษตรอินทรีย์และเกษตรผสมผสาน และมีการศึกษาพันธุ์หญ้าแฝกเพื่อผลิตเป็นเวชภัณฑ์ นอกจากนี้ยังขยายผลด้านการเกษตรไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในเขตพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง เพื่อส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตให้แก่โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนฯ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พัฒนาผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรเพื่อให้ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่เกษตรกร
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2528 ให้จัดตั้งโครงการเพื่อศึกษาวิธีการปรับปรุงที่ดินเสื่อมโทรมให้สามารถใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกได้ โดยดำเนินการในลักษณะเป็นศูนย์สาขาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเทิดพระเกียรติและสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการพระราชดำริให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริในพื้นที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการ เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้รับความรู้เกี่ยวกับการจัดการดิน น้ำ พืช และการพัฒนาอาชีพให้ยั่งยืน สามารถนำไปปรับใช้เป็นแนวทางในการทำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเองได้ต่อไป
จากการดำเนินงานกว่า 40 ปี เกิดผลสัมฤทธิ์เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยสามารถฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน โครงการฯ เป็นแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต สามารถขยายผลไปสู่ผู้รับประโยชน์กว่า 2,400 ครัวเรือน ประชาชนกว่า 7,000 คน และในปี 2567 มีผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงานกว่า 144,000 คน
นายสุกิจ สุภาพงศ์ (สวนยายเหรียญ) เกษตรกรได้รับรางวัลเกษตรผสมผสาน บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 7 ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เล่าว่า แต่เดิมรับราชการครู หลังจากเกษียณอายุราชการแล้วก็หันมาประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำการเกษตรแบบผสมผสานวิถีพอเพียง พื้นที่จำนวน 3 ไร่ เริ่มต้นจากการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และขยายผลสู่การเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง และการแปรรูปสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ได้แก่ ไพล ย่านางแดง ขมิ้นอ้อย ว่านเอ็นเหลือง ผลิตภัณฑ์แปรรูป ได้แก่ น้ำมันไพล โลชั่นถนอมผิวน้ำมันมะพร้าว สบู่ก้อนสมุนไพรย่านางแดง สบู่เหลวย่านางแดง น้ำผึ้งชันโรง แชมพูสระผม 5 เกลอ ยาหม่องสมุนไพร โดยจำหน่ายสินค้าทางสื่อออนไลน์
นายสุกิจ เล่าต่อว่า เมื่อสมัยรับราชการครูได้นำนักเรียนมาทัศนาศึกษาและทำกิจกรรมที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เช่น การเลี้ยงไส้เดือน การทำน้ำหมักชีวภาพ ฯลฯ หลังจากนั้นก็ได้นำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้และนำหลักคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 องค์ความรู้ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข 4 มิติ พออยู่ พอดี พอมี พอกิน มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต แรงบันดาลใจสู่ความเร็จ คือการทำเกษตรแบบผสมผสานวิถีพอเพียง การแบ่งปันผลผลิตกับชุมชน การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เข่น การทำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยและชันโรง เพื่อบ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นพืชที่ปลอดภัยจากสารเคมี โดยน้อมนำตามคำสอนของพ่อสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน มีรายได้เฉลี่ย 300,000 บาทต่อปี
“รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยใช้ชีวิตความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย มีความสุข ไม่ได้หวังผลกำไรมากมาย น้อมนำคำสอนของพ่อหลวงและสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 10 พยายามพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้แก่เด็กรุ่นใหม่ และกลุ่มสตรีในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับประโยชน์อีกด้วย” นายสุกิจ กล่าว
นายสามารถ พูลเกษม (สวนเกษตรสามารถ) เกษตรกรได้รับรางวัลเกษตรผสมผสาน บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ 7 ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เล่าว่า มีอาชีพเป็นเกษตรกร ทำการเกษตรทฤษฎีใหม่แบบผสมผสาน ระบบน้ำอัจริยะ จำนวน 4 ไร่ ได้แก่ ดอกแค กล้วยน้ำว้า มะพร้าวน้ำหอม ข้าว ขนุน ส้มโอ และเลี้ยงไก่พื้นเมือง โดยมีแรงบันดาลปรับเปลี่ยนการทำเกษตรแบบพืชเชิงเดี่ยวมาเป็นเกษตรผสมผสาน โดยเข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริของพ่อหลวง การปลูกพืชทุกชนิดที่สร้างรายได้ ปรับปรุงดิน ทำปศุสัตว์ เลี้ยงวัว ไก่พื้นเมือง ทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพใช้เอง การรดน้ำแปลงไม้ผลด้วยระบบน้ำอัจริยะ โดยใช้แรงงานเพียงคนเดียว จนนำไปสู่ความสำเร็จในการดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืนตลอดไป
นายสามารถ เล่าย้อนว่า อาชีพดั้งเดิมทำนามาตลอด ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เก็บเกี่ยวผลผลิตปีละครั้ง ไม่คุ้มทุน จึงมีแนวคิดอยากทำตามรอยพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อมาในปี 2564 จึงได้เข้ามาปรึกษาเรื่องการปรับปรุงดินที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยใช้ระยะเวลา 1 ปี ในการปรับปรุงดินและปลูกพืชได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น จนทุกวันนี้มีรายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตเฉลี่ยวันละ 300 บาท ทำให้มีรายได้รายวัน รายเดือน รายปี รายได้เฉลี่ย 76,000 บาทต่อปี ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ คิด ศึกษาแล้วทำ
“การทำเกษตรพอเพียง เป็นอาชีพที่ยั่งยืนจริง ๆ ไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน เมื่อก่อนต้องรอน้ำเพื่อทำนา เมื่อมีการขุดบ่อตามโครงการพระราชดำริ ทำให้มีน้ำใช้ สามารถปลูกพืขได้ทั้งปี ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายได้ตลอดทั้งปี มีความภูมิใจที่ทำตามศาสตร์พระราชา ทุกวันนี้มีอาชีพอย่างยั่งยืนก็เพราะพระองค์ท่าน ทำให้ชีวิตมีความสุข ภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นรางวัลของครอบครัว อยากจะฝากถึงลูกหลานว่าให้ความสำคัญต่ออาชีพของพ่อแม่ ซึ่งพระองค์ท่านได้พระราชทานอาชีพให้ราษฎรมีอาชีพ มีรายได้ มีความอยู่ดี กินดี” นายสามารถ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรเครือข่ายโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สวนโชคสมบูรณ์ เกษตรอินทรีย์ หมู่ 8 ตำบลนางแก้ว อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้พัฒนาต่อยอดจากการเข้ามาศึกษาเรียนรู้ในโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยการทำไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์ สร้างรายได้อย่างมั่นคง ช่วยยกระดับคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น