กรมชลฯ เร่งติดตามความก้าวหน้างานสำรวจ ออกแบบโครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

“กรมชลประทาน” ติดตามความก้าวหน้างานสำรวจ ออกแบบโครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้อง สามารถระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 470 ลบ.ม./วินาที เพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ พร้อมทั้งแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกุล ผู้อำนวยการสำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กรมชลประทาน นำคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้างานสำรวจ ออกแบบโครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากทุกปี โดยเฉพาะบริเวณตลาดเก่าและบริเวณเขตเทศบาล ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งการดำเนินโครงการได้จัดให้มีกิจกรรมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาโครงการฯ เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแนวทางต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการแก้ปัญหาและนำไปสู่การจัดทำแผนการพัฒนาโครงการ ก่อนนำไปสู่การเสนอโครงการกับคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เพื่ออนุมัติแผนการพัฒนาต่อไป

เนื่องจากอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ในลุ่มน้ำบางประกงตอนบน มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง และป่าทึบสลับซับซ้อนและเป็นแหล่งกำเนินต้นน้ำหลายสาย ทิศเหนือเต็มไปด้วยเทือกเขา มีลำน้ำแควหนุมานและคลองพระปลงมาบรรจบกันในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรีเป็นแม่น้ำปราจีนบุรี ลักษณะพื้นที่ในลุ่มน้ำมีแหล่งเก็บกักน้ำน้อยมากและความสามารถในการระบายน้ำของลำน้ำไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งเป็นประจำเกือบทุกปี อีกทั้งมีปริมาณน้ำเก็บกักเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ของน้ำท่ารายปีและไม่มีอาคารบังคับน้ำที่เพียงพอ ในทุกปีเมื่อเข้าช่วงฤดูแล้งพื้นที่ลุ่มน้ำบางประกงจึงประสบปัญหาน้ำแล้งและน้ำเค็มจากน้ำทะเลหนุนเป็นอย่างมาก

จากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2556 ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักในพื้นที่ ทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรง กรมชลประทานจึงพิจารณาถึงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และคลองผันน้ำ เพื่อลดผลกระทบน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในจังหวัดปราจีนบุรีในอนาคต ซึ่งในปี 2556 กรมชลประทานได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำสาขา จังหวัดปราจีนบุรี โดยแล้วเสร็จในปี 2559



ต่อมาในปี 2567 กรมชลประทานได้ว่าจ้างให้กิจการร่วมค้า FCSPB JV ดำเนินการสำรวจ ออกแบบโครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำสาขา จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งโครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากอย่างต่อเนื่อง และเกิดขึ้นเป็นประจำเกือบทุกปี โดยเฉพาะบริเวณตลาดเก่าและบริเวณเขตเทศบาล ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการและบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนลดปัญหาการย้ายถิ่นฐานของราษฎร โดยการส่งเสริมให้ราษฎรในท้องถิ่นมีอาชีพเกษตรกรรมมากขึ้น

นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกุล ผู้อำนวยการสำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้มอบให้กิจการร่วมการค้า FCSPB JV ดำเนินการสำรวจ ออกแบบ โครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการย่อยของโครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำสาขา จังหวัดปราจีนบุรี โดยทำการออกแบบคลองผันน้ำ ประตูระบายน้ำในลำน้ำสายหลัก อาคารควบคุมน้ำในคลองผันน้ำ และคันกั้นน้ำด้านต้นน้ำของชุมชนกบินทร์บุรี เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งแบบบูรณาการ


“สำหรับแผนการออกแบบโครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้อง คลองผันน้ำเป็นคลองดินขุดใหม่ รูปสี่เหลี่ยมคางหมูเริ่มตั้งแต่ด้านเหนือน้ำของประตูระบายน้ำแควหนุมาน และประตูระบายน้ำคลองพระปรง จนถึงด้านท้ายน้ำของประตูระบายน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี มีขอบคันด้านหนึ่งของคลองผันน้ำ ทำหน้าที่เป็นคันป้องกันน้ำท่วม และท่อระบายน้ำพร้อมอาคารควบคุมตามแนวคันป้องกันน้ำท่วม เพื่อกักเก็บและระบายน้ำ” นายพิเชษฐ กล่าว

ลักษณะและองค์ประกอบของโครงการ ประกอบด้วย 1. ออกแบบคลองผันน้ำ 2 สาย ได้แก่ คลองผันน้ำแควหนุมาน และคลองผันน้ำคลองพระปรง คลองผันน้ำทำหน้าที่ผันน้ำจากแควหนุมาน และคลองพระปรง คันคลองผันน้ำข้างหนึ่งทำหน้าที่ป้องกันน้ำท่วม และมีการออกแบบอาคารประกอบตามแนวคลองผันน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำและระบายน้ำออกแบบคลองผันน้ำแควหนุมาน ความยาวไม่น้อยกว่า 6.60 กม. สามารถระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 470 ลบ.ม./วินาที พร้อมอาคารประกอบออกแบบคลองผันน้ำคลองพระปรง ความยาวไม่น้อยกว่า 4.40 กม. สามารถระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 470 ลบ.ม./วินาที พร้อมอาคารประกอบ 2. ออกแบบประตูระบายน้ำในลำน้ำสายหลัก 3 แห่ง ได้แก่ ปตร.แควหนุมาน ปตร.คลองพระปรง และปตร.แม่น้ำปราจีนบุรี พร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้อง 3. ออกแบบอาคารควบคุมน้ำ ในคลองผันน้ำแควหนุมาน และคลองผันน้ำคลองพระปรง ได้แก่ อาคารควบคุมน้ำปากคลองและอาคารควบคุมน้ำปลายคลอง 4. ออกแบบปรับปรุงระบบระบายน้ำในเขตพื้นที่ปิดล้อมเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมจากปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ปิดล้อม และ5. ออกแบบคันกั้นน้ำด้านต้นน้ำของชุมชนกบินทร์บุรี ปรับปรุงถนนเดิมเพื่อยกระดับให้สามารถป้องกันน้ำท่วมที่ระดับสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 รวมระยะทางไม่น้อยกว่า 6.50 กม.

ทั้งนี้ แผนงานสำรวจ ออกแบบโครงการคลองผันน้ำพร้อมอาคารประกอบที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีกำหนดระยะเวลา 720 วัน (ปี 2567-2569) ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 20 กันยายน 2569 หลังจากนั้นจะนำเสนอโครงการฯ ต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เพื่อเสนอเปิดโครงการต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) จัดเตรียมเอกสารประมูล เตรียมการก่อสร้าง และดำเนินการก่อสร้างโครงการต่อไป ซึ่งหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะช่วยทำให้พื้นที่ปิดล้อมภายในแนวคลองผันน้ำและประตูระบายน้ำได้รับการป้องกันน้ำท่วมอย่างสมบูรณ์ พื้นที่รวมประมาณ 4,262 ไร่ การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น การใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้งเพิ่มขึ้น และมีน้ำใช้ผลักดันน้ำเค็มเพิ่มขึ้น (กรณีมีน้ำต้นทุนเพียงพอ)

นายสมชาย สมบูรณ์กุล รองนายกเทศมนตรีตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวเสริมว่า โดยบริบทในเขตเทศบาลกบินทร์ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำแควหนุมานละแควพระปรง เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำก็จะไหลเอ่อล้นท่วมพื้นที่เทศบาลเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2567 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในเขตเทศบาลถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน ซึ่งทางเทศบาลยินดีเป็นอย่างยิ่งที่กรมชลประทานได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ ซึ่งเป็นโครงการที่ดี ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยได้อย่างแน่นอน

นางดรุณี ธาราทิพยกุล ประธานชุมชนตลาดเก่า ในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ กล่าวว่า เมื่อปี 2556 เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ชุมชนและร้านค้าได้รับความเสียหายจำนวนมาก ต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เมื่อโครงการนี้เสร็จแล้ว ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ช่วยบรรเทาอุทกภัย ไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในชุมชนต่อไป

ด้านปรมัตถ์ ทวารกา กรรมการมูลนิธิสัจจพุทธรรม กบินทร์บุรี กล่าวด้วยว่า สมัยก่อนพอถึงช่วงฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำจะไหลแรงมาก ระดับน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน ชาวบ้านได้รับเดือดร้อน ต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ที่โรงเรียนหรือกางเต๊นท์นอนบนถนน โดยเฉพาะในเขตชุมชนตลาดเก่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ชาวบ้านทำมาหากินลำบาก ซึ่งเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยผันน้ำออกไปจากพื้นที่ไหลลงสู่ลำคลองต่างๆ และสามารถควบคุมระดับน้ำได้ ชาวบ้านก็จะมีน้ำกิน น้ำใช้ ทำการประมงได้ และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน