วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 09.40 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยนายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. และคณะเดินทางไปยังโครงการเพื่อชุมชนเข้มแข็งและร่มเย็นบ้านสันติ 2 ตามพระราชดำริสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร บ้านเยาะ หมู่ที่ 6 ตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ พร้อมทั้งเชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีไปมอบให้แก่ราษฎร จำนวน 100 ถุง ได้แก่ ราษฎรบ้านสันติ 2 และราษฎรบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ซึ่งราษฎรทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โอกาสนี้ องคมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ปฏิบัติงาน และเยี่ยมชมกิจกรรมส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต และบ้านเรือนราษฎรของหมู่บ้านในโครงการ
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2550 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จมาทรงงานในพื้นที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2549 จำนวน 74 ครอบครัว รวม 134 คน ที่ได้อพยพไปอยู่ที่วัดนิโรธสังฆาราม อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา และได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ ต่อมาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2550 ทรงติดตามการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมกับพระราชทานชื่อโครงการดังกล่าว ตลอดจนวัตถุประสงค์ของโครงการ 4 ประการ ประกอบด้วย 1) ความปลอดภัย 2) ครอบครัวอบอุ่น คุณภาพชีวิตที่สดใส และสมบูรณ์ 3) ทำมาหากิน และมีที่ทำกินที่ดี มีกิจกรรมเสริมอาชีพที่เหมาะสม และ 4) ได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพอนามัย และการศึกษาเยาวชนและลูกหลานที่เหมาะสม ปัจจุบันราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีทั้งชาวไทยพุทธและอิสลามได้รับการดูแล ตลอดจนการส่งเสริมในด้านต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงขึ้น มีอาชีพและที่พักอาศัยที่ปลอดภัย ชุมชนมีความเข็มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขเสมอมา
จากนั้น องคมนตรีและคณะเดินทางไปยังกองร้อยเฉพาะกิจรบพิเศษ บ้านสันติ 1 ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และเชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 244 ถุง โอกาสนี้ องคมนตรีเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีที่ทรงมีต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปกล่าว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน และร่วมปลูกต้นไม้เพื่อสร้างร่มเงาให้แก่พื้นที่
ช่วงบ่าย องคมนตรีและคณะเดินทางไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา รับฟังบรรยายสรุปข้อมูลการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โอกาสนี้ องคมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ปฏิบัติงาน และเยี่ยมชมนิทรรศการผลการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาของศูนย์ฯ (ศอ.บต.) พร้อมทั้งพบปะพูดคุยและเยี่ยมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) เป็นหน่วยงานอำนวยการระดับพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งขึ้นในปี 2524 โดยพัฒนาจากศูนย์ประสานงานการปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปต.) ของกรมการปกครองที่มีอยู่เดิม ทำหน้าที่เร่งรัด กำกับ ดูแล ประสานงาน ผนึกกำลังและติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานฝ่ายพลเรือนและตำรวจในพื้นที่ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายนโยบายความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นงานด้านสังคมจิตวิทยา การเมือง การปกครอง การพัฒนาประสิทธิภาพข้าราชการ การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การเสริมสร้างความเข้าใจอันดี และความร่วมมือในระดับท้องถิ่นกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการประสานการปฏิบัติงานกับส่วนราชการฝ่ายทหาร และกองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหารที่ 43 (พตท.43)
ต่อมา องคมนตรีและคณะเดินทางไปยังวัดเวฬุวัน ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา สักการะพระประธาน และกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัด พร้อมทั้งถวายถุงพระราชทาน จำนวน 9 ชุด แด่พระสงฆ์
วัดเวฬุวัน ตั้งอยู่ที่บ้านสะเตง ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา เดิมชื่อ “วัดป่าไผ่” แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า “วัดสะเตง” ตามชื่อหมู่บ้านและตำบล สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2453 โดยพระยาพิพิธภักดี (เพิ่ม เตชคุปต์) เจ้าเมืองยะลา เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างและให้ความอุปถัมภ์ ปัจจุบันพระเทพวชิรนายก (พระราชปัญญามุนี) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 ถึงปัจจุบัน และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดยะลา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปัจจุบัน
