นอภ.แม่ริม เปิดฟาร์มแกะอัลปาก้า แหล่งท่องเที่ยวใหม่ม่อนแจ่ม ชมสายพันธุ์หายาก จุดชมวิว 360 องศา คาดเงินสะพัดกว่า 200 ล้าน

วันที่ 14 กันยายน 2567 นายวัชระ เทพกัน นายอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดฟาร์มแกะอัลปาก้า ม่อนแจ่ม บ้านแม่ขิ หมู่ 4 ต.แม่แรม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.แม่ริม บนเนื้อที่กว่า 16 ไร่ มีนายวิชิต  เมธาอนันต์กุล นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม นายสุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้บริหารฟาร์มแกะอัลปาก้า ม่อนแจ่ม พร้อมผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักธรุกิจและผู้นำชุมชน ได้มอบช่อดอกไม้ ของขวัญ ของที่ระลึกแก่นายสุรินทร์และผู้บริหาร เพื่อแสดงความยินดีและให้กำลังใจ พร้อมอวยพรขอให้กิจการรุ่งเรือง และประสบความสำเร็จ ท่ามกลางมิตรภาพ ความอบอุ่นและความรักสามัคคีด้วย

ทั้งนี้ฟาร์มดังกล่าว เป็นฟาร์มแกะที่เลี้ยงกว่า 100 ตัว อาทิ สายพันธุ์มูลิโน ตอลร์ริเดล และอัลปาก้า ที่เป็นสายพันธุ์หายาก พร้อมกิจกรรมดูช้าง ร้านกาแฟ ของที่ระลึกม่อนแจ่ม จุดโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นจุดเช็คอินและชมวิวแบบ 360 องศา ที่มีทัศนีย ภาพสวยงาม ซึ่งตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางกว่า 1,000 เมตร ใช้งบลงทุนกว่า 5 ล้านบาท ส่วนบัตรเข้าชมคนไทย 100 บาท ต่างชาติ 200 บาท เด็ก 50 บาท

นายวัชระ กล่าวว่า การเปิดฟาร์มแกะดังกล่าว เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของม่อนแจ่ม เพื่อเตรียมท่องเที่ยวหลังจากหมดฤดูฝน ช่วงพฤศจิกายน ถือเป็นฤดูท่องเที่ยวเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอาทิ น้ำตกแม่สา ปางช้างแม่สา บ้านโป่งแยง สวนพฤกษ ศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ หรือมาเที่ยวที่ม่อนแจ่ม ยอดดอยที่สูงที่สุดของ อ.แม่ริม ที่มีอากาศเย็นสบายทุกฤดู มาเที่ยวที่ฟาร์มแกะแห่งนี้ได้ มีแกะที่หาดูยากหลายสายพันธุ์ มาชิมชากาแฟ ขนมอร่อยได้ทุกวัน

ด้านนายวิชิต  กล่าวว่า ชาวบ้านม่อนแจ่มได้เปลี่ยนวิถีชีวิตทำการเกษตรมาเป็นท่องเที่ยววิถีชุมขนมากขึ้น ซึ่งมีรายได้สูงกว่าการเกษตรหลายเท่าตัว เพราะสามารถกำหนดราคาสินค้าและบริการได้ ส่วนผลผลิตเกษตร มีราคาไม่แน่นอน มีความผันผวนและขึ้นอยู่กับกลไกตลาดมากกว่า

“ทางภาครัฐ และเทศบาล ได้อำนวยความสะดวก เช่น จราจร ความปลอดภัย จัดการขยะ ความสะอาด ฟื้นฟูอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ภายใต้พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม เพื่อจัดระเบียบท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งชุมชนและผู้ประกอบการให้ความร่วมมือมากขึ้น ทำให้บริหารจัดการง่ายขึ้น ทั้งนี้เมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวกว่า5,000 คน/วัน สร้างรายได้รวมกว่า 500 ล้านบาท ถือว่ามากสุดของม่อนแจ่มแล้ว หลังจากนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ลดลงตามลำดับ ส่วนปี 2567คาดมีรายได้เพียง 200 ล้านบาทตามภาวะเศรษฐกิจประเทศด้วย” นายวิชิต กล่าว