วันที่ 6 พ.ค ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ภายในหมู่ 2 ตำบล.คลองสระบัวอำเภอ.พระนครศรีอยุธยาจังหวัด.พระนครศรีอยุธยาไปพบกับ นายบุญรอด แสงพระจันทร์อายุ 60 ปีและนางสาวเตี้ย วันทองอายุ 72 ปีสองตายายซึ่งกำลังนั่งคัดแยกของเก่าเพื่อเก็บไปขาย พร้อมพาผู้สื่อข่าวเดินไปดูหลังครัวที่ถูกคนร้ายขโมยของไป
นางสาวเตี้ย เล่าว่า ตนและสามี มีอาชีพรับซื้อของเก่าทุกวันจะออกไปตะเวนรับซื้อของเก่า และเมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.คที่ผ่านมา ตนเองและสามีออกไปรับซื้อของเก่าตามปกติและ ช่วงบ่ายได้กลับมาบ้าน พอถึงบ้านเดินไปหลังครัวก็เห็นความผิดปกติว่าทำไมด้านหลังครัว ซึ่งวางหม้อก๋วยเตี๋ยวไว้ หายไป จึงได้สำรวจดูก็พบว่ามีหม้ออลูมิเนียม ขันน้ำ อลูมิเนียม ที่วางไว้ หายไปทั้งหมดหลายใบ มิหนำซ้ำ คนร้ายยัง ติดเตาแก๊ส อุ่น ต้มยำปลา ที่ต้มเอาไว้เป็นกับข้าวเพื่อจะกลับมากินหลังไปรับซื้อของเก่า คนร้ายยังตักใส่ถ้วย และตักข้าวใส่จานนั่งกินจนหมดหม้อแบบสบายใจทิ้งถ่วยจานเปล่าที่กินหมดแล้วไว้ให้ดูต่างหน้าแถมคนร้ายยังวางหมวกสีขาวไว้ 1 ใบ กินข้าวเสร็จคนร้ายยังไปนั่งเปิดพัดลมรื้อค้น เครื่องมือ และของทั้งหมดที่ขโมยไปนำไปใส่ถุงดำยังขโมยรถเข็น เอาของ ใส่รถเข็น ขโมยเข็นออกไป แบบสบายใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองรู้สึกเสียใจและเจ็บใจกับคนร้ายที่มาก่อเหตุกับครอบครัวของตนเองซึ่งครอบครัวของตนเองก็เป็นคนยากจนหาเช้ากินค่ำ หม้ออลูมิเนียมและหม้อก๋วยเตี๋ยวที่คนร้ายขโมยไป มีหม้อหูอลูมิเนียม 17 ใบ หม้อก๋วยเตี๋ยว 1 ใบ กะละมังอลูมิเนียม 15 ใบรถเข็น 1 คันเครื่องมือช่าง 1 อัน ถ้านำไปขายชั่งกิโล ก็มีมูลค่าหลายพันบาท แต่ของทุกอย่างตนเก็บสะสมมา ทั้งชีวิตก็มาถูกคนร้ายขโมยไปโชคดีที่คนร้ายไม่ งัดประตูบ้าน เข้าไปขโมยของในบ้าน ตอนนี้ก็ทำได้แค่เพียงเอาโซ่มาคล้องหูหม้ออลูมิเนียมที่เหลืออยู่ไม่กี่ใบล็อคกุญแจเอาไว้พร้อมถังแก๊สกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาเอาอีกเพราะยังเอาไปไม่หมด จึงวิงวอนคนร้ายช่วยนำเอาของที่ขโมยไปมาคืนหรืออยากกลับมาขโมยของที่บ้านของตนอีกเลย หลังจากนี้จะเดินทางไปแจ้งความไว้ที่สภ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
