องคมนตรีประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ ครั้งที่ 1/2567

วันอังคารที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ที่อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงาน กปร. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ และพลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุมหนุมาน 2 โดยมีนายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. เป็นเลขานุการการประชุมในครั้งนี้

โดยมีวาระการประชุมเพื่อทราบดังนี้ สรุปผลการลงพื้นที่ขององคมนตรีและคณะอนุกรรมการฯ ช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 -มีนาคม 2567 จำนวน 7 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดชุมพร นราธิวาส ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช สรุปผลการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือ (ฎีกา) จำนวน 17 เรื่อง 21 โครงการ ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 11 โครงการ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ และสรุปผลการต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 9 โครงการ ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการต่อยอดโครงการอาคารอัดน้ำบ้านเนินทองพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดระนอง และโครงการที่อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ โดยเป็นการขยายผลองค์ความรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร จำนวน 8 โครงการ

สำหรับเรื่องเพื่อพิจารณาที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาความก้าวหน้าการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยาฯ จังหวัดยะลา โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชฯ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ฯ โครงการวังหีบฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีสุกฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเขาพลูฯ จังหวัดตรัง และโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่วฯ จังหวัดพัทลุง นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แจ้งแผนการลงพื้นที่ในการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ขององคมนตรีและคณะอนุกรรมการฯ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสามารถสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ต่อไป