ศูนย์ดำรงธรรมแม่ริม ลงพื้นที่ตรวจชายหาดน้ำปิง 3 จุด สั่งรื้อถอนร้านค้ารุกที่สาธารณะ ด้านกำนัน ร้องขอความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย เข้าข่าย ม.157

วันที่ 21 มีนาคม 2567  ที่โม้งทรายบิช บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายประเสริฐศักดิ์บุตรสา ปลัดอาวุโส อ.แม่ริม ฝ่ายความ มั่นคง พร้อม น.ส.ฉัตรพรรณกร สุวรรณะ ปลัด อ.แม่ริม ที่ดูแลศูนย์ดำรงธรรม นายธีรวัฒน์ ณ ลำพูน ปลัด อ.แม่ริม ฝ่ายปกครอง ได้ลงพื้นที่ตรวจโม้งทรายบิช ตามคำสั่งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กรณีมีผู้ร้องเรียนการบุกรุกพื้นที่ชายหาด ริมน้ำปิงฝั่งตะวันออก จุดแรก ซึ่งเป็นที่สาธารณะชุมชน และไม่ได้ขออนุญาตทำเป็นร้านอาหารเครื่องดื่ม หรือแผงลอย บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่มาเล่นน้ำชายหาดดังกล่าว โดยมีนายทองคำ กันธาแดงนายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) เหมืองแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานเจ้าท่าที่ 1 เชียงใหม่ สำนักงานสรรพสามิต เขตสรรพสามิต อ.เมือง สำนักงานสาธารณสุข อ.แม่ริม สำนักงานที่ดิน อ.แม่ริม ฝ่ายปกครอง  สภ.แม่ริม และผู้ประกอบการกว่า 20 คน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ นายประเสริฐศักดิ์ และคณะตรวจสอบดังกล่าว ได้ชี้แจงข้อร้องเรียนและให้คำแนะนำผู้ประกอบการผ่านนายสุชาติ ไชยมูล ตัวแทนผู้ประกอบการโม้งทรายบิช จำนวน 25 ราย ที่ได้รับอนุญาตจากประชาคมหมู่บ้านให้ประกอบกิจการดังกล่าว ทั้งนี้มีผู้ร้องเรียน 3 เรื่อง คือ จำหน่ายแอลกอฮอล์ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำหน่ายแอลกอฮอล์เกินเวลากฏหมายกำหนด และเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฏหมายดังกล่าว รวมถึงเรื่องการใช้เครื่องขยายเสียง ที่เปิดเพลงเสียงดังรบกวนชุมชนใกล้เคียง

นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกรอบระเบียบกฏหมาย และไม่ฝ่าฝืนกฏหมายใดๆพร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และไม่จำหน่ายแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฏหมายกำหนด พร้อมขออนุญาตใช้พื้นที่ เพื่อเปิดสถานบริการหรือแผงลอยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อใช้เป็นแนวทางหรือบรรทัดฐานการปฏิบัติ หรือจัดระเบียบชายหาดหรือที่สาธารณะ ในปีหน้า

นอกจากนี้ให้ผู้ประกอบการรื้อถอนร้านค้า หรือแผงลอย ที่รุกล้ำชายหาดสาธารณะ จำนวน 4 ราย ตามคำสั่งสำนักงานเจ้าท่าที่ 1 เชียงใหม่พร้อมขอความร่วมมือการป้องกันอาชญากรรม อาทิ การทะเลาะวิวาทลามกอนาจาร ค้าประเวณี ยาเสพติดและการใช้เครื่องเสียง ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง โดยให้ฝ่ายตำรวจและปกครอง ช่วยตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด

ต่อมานายประเสริฐศักดิ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจ บริเวณหาดทรายเหมืองแก้ว บ้านน้ำต้น หมู่ 1 ซึ่งเป็นจุดที่ 2 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ จำนวน 29 ราย มีนายชนพัฒน์ รักกะเปา ตัวแทนผู้ประกอบการ เข้าร่วมรับฟังชี้แจงดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้รื้อถอนร้านค้า หรือแผงลอยทั้งหมด ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยกำหนดระยะเวลารื้อถอนภายใน 30 วัน แต่ผู้ประกอบการสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ภายใน 15 วันได้ ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าที่ 1 เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.แม่ริม วันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว

หลังจากนั้นนายประเสริฐศักดิ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณหาดวังดินเพชรริมปิง บ้านวังดิน หมู่ 9  จุดที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่เอกชน ติดริมริมปิงมีนายนิมิตร ขยัน กำนัน ต.เหมืองแก้ว ผู้ได้รับอนุญาตจากประชาคมหมู่บ้าน และเป็นตัวแทนผู้ประกอบการ จำนวน 15 ราย  ให้ดำเนินการบริการนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนและเล่นน้ำชายหาดดังกล่าว ร่วมรับฟังคำชี้แจงจากนายประเสริฐศักดิ์ และคณะ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามระเบียบกฏหมายอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน

นายนิมิตร กล่าวว่า พร้อมปฏิบัติตามระเบียบกฏหมายดังกล่าว แต่เรียกร้องทางอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามระเบียบกฏหมายอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างความเป็นธรรมทุกฝ่าย อย่างเท่าเทียมกัน ไม่โยนไปมาหากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมายอาจเข้าข่าย ม.157 การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้

“ส่วนตัวส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างงานและรายได้สู่ท้องถิ่น เป็นการสร้างโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน ซึ่งตอบสนองนโยบายการท่องเที่ยววัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่น ในช่วงงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หรือมหาสงกรานต์ตามซอฟต์เพาเวอร์ของรัฐบาลอีกด้วย” นายนิมิตร กล่าว