วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่อุทยานตำนานช้าง ต.เมืองงายอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นายอัญเชิญ โกฎแก้ว ผู้ออกแบบต้นแบบช้าง 99 ช้าง ซึ่งเป็น 4 ตระกูล ตามตำนานการเนรมิตโดยเทพผู้สร้างให้กำเนิดขึ้นในโลก “อศวรพงศ์” ช้างที่พระอิศวรนิรมิต “พรหมพงศ์” ช้างที่พระพรหมเนรมิต “วิษณุพงศ์” ช้างที่พระวิษณุเนรมิต และ “ อคนิพงศ์” ช้างที่พระอัคนีเนรมิต ครั้งแรกในโลก เปิดเผยว่า ได้สร้างหรือปั้นช้างดังกล่าว ตามแบบจำลอง เพื่อขึ้นรูปคามต้นแบบโดยผู้ร่วมบริจาคจะได้รับป้ายจารึกขึ้นชื่อและฐานปฏิมากรรมช้างแต่ละช้างและรายนามผู้บริจาคจะได้รับการจารึกไว้ในอาคารจัดแสดงถาวร เพื่อให้ชนรุ่นหลัง และนักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ คติชน และคชศาสตร์ พร้อมระบบแสงสีเสียง ที่สวยงามตระการตา

“ช้างมงคล 99 ช้าง ถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองและมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมความเชื่อและประวัติ ศาสตร์ของชาติไทยมาอย่างยาวนานตามคติความเชื่อโบราณที่มีรูปลักษณ์พิเศษ หรือ “คชลักษณ์” อันเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม อำนาจ วาสนา บารมี และศิริมงคล” นายอัญเชิญ กล่าว
อีกทั้งเป็นการสืบสานภูมิปัญญาไทยด้านคชลักษณ์ และถ่ายทอดตำนานช้างตามคติศาสนา และวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในรากเหง้าทางจิตวิญญาณจึงได้จัดโครงการสร้าง “ปฏิมากรรมช้างมงคล 99 เชือก” ที่อุทยานตำนานดังกล่าว เพื่อสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมระดับชาติเรื่องคชลักษณ์อย่างสร้าง สรรค์และเป็นต้นแบบการใช้ศิลปกรรมถ่ายทอดภูมิปัญญาทางศาสนาวรรณคดีไทย
นอกจากนี้ภายใน “อุทยานตำนาน ช้าง” ยังมีการปัั้นหุ่นปูนทหารสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นจำนวนมาก และช้างขนาดเท่าจริง ยืนเรียงรายอยู่ พร้อมโมเดลต้น แบบ กองทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกรีฑาทัพผ่านก่อนที่พระองค์เสด็จสวรรคต โดยออกแบบเพื่อนำเสนอโครงการ
ให้แก่ผู้ที่สนใจร่วมสร้างเพื่อจัดแสดงใน “อุทยานตำนานช้าง” เมืองงาย ซึ่งหากสำเร็จจะถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ อ.เชียงดาว เพื่อเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพระองค์
ท่านอีกด้วย
นายอัญเชิญ กล่าวอีกว่า การจำลองโมเดลกองทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขึ้นมาเพื่อจะจัดสร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 200 ไร่ จากการศึกษาค้นคว้าทางประวัติ ศาสตร์ พบว่าพื้นที่ ต.เมืองงาย เป็นเส้นทางที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเดินทัพ และเป็นสถานที่ตั้งค่ายในอดีต ตลอดจนเป็นสถานที่สุดท้ายในการทรงกรีฑาทัพผ่านก่อนที่พระองค์เสด็จสวรรคต จึงอยากใช้งานศิลปะ โดยเฉพาะงาประติมากรรมผ่านการปั้นเล่าเรื่อง เพื่อเทิดทูนพระเกียรติองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งใช้เวลาศึกษาหลายปี เพื่อจำลองโมเดลโครงการทั้งหมดเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของกองทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยหวังเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยแห่งเดียวในโลก ไม่แพ้สุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ เมืองซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีโอกาสไปชมนิทรรศการสุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ จึงมีแรงบันดาลใจ ที่จะทำความฝันให้เป็นความจริง ด้วยการสร้างกองทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจำลองด้วยปูนปั้นขนาดเท่าคนจริง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ระดับโลก
“ผมกับทีมงานลงมือปั้นหุ่นปูนทหาร โดยจำลองจากขนาดมาตรฐานของชายไทย ขณะนี้ดำเนินการไปกว่า 30 – 40 นายแล้ว และยังได้ปั้นช้าง และม้าขนาดเท่าคนจริงตั้งโชว์ภายในอุทยานดังกล่าวด้วย” นายอัญเชิญ กล่าวตอนท้าย