ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป วงการประกันสุขภาพไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยสมาคมประกันชีวิตไทยประกาศบังคับใช้ระบบ “Co-payment” กับประกันสุขภาพทุกประเภทที่ซื้อใหม่ หมายความว่า หากต้องการเคลมค่ารักษาพยาบาลในอนาคต ลูกค้าจะต้องจ่ายค่ารักษาบางส่วนร่วมกับบริษัทประกัน ไม่ใช่บริษัทประกันจ่ายทั้งหมดเหมือนที่ผ่านมา
สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากปัญหาการใช้สิทธิ์เคลมค่ารักษาพยาบาลเกินจำเป็น เช่น กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อยแต่ขอพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อเคลมประกัน ทำให้ต้นทุนค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นเรื่อย ๆ การนำระบบ “Co-payment” มาใช้จึงเป็นการควบคุมการใช้สิทธิ์อย่างเหมาะสมและลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทประกัน
เงื่อนไขการใช้ “Co-payment”
– ใช้กับกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่ออกใหม่เท่านั้น ไม่กระทบประกันที่มีอยู่ก่อนหน้านี้และต่ออายุอย่างต่อเนื่องก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2568
– ลูกค้าจะต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วนตามเงื่อนไข หากเคลมหลายครั้งเกินจำเป็นตามเกณฑ์ที่กำหนด
– ข้อยกเว้นสำคัญคือ “โรคร้ายแรง” และ “การผ่าตัดใหญ่” จะไม่ถูกนำมาคำนวณในระบบ Co-payment
มุมมองจาก คปภ.
เลขาธิการ คปภ. นายชูฉัตร ประมูลผล ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ใช่การผลักภาระให้ประชาชน แต่เป็นการรักษาความสมดุลของระบบประกันสุขภาพภาคสมัครใจ ให้สามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากค่าเบี้ยประกันสุขภาพในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี หากไม่มีมาตรการควบคุม อาจทำให้ผู้ถือกรมธรรม์ไม่สามารถต่ออายุได้เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เสริมเกราะป้องกันด้วยประกันอุบัติเหตุ
แม้ระบบ Co-payment จะช่วยลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น แต่หากคุณต้องการเสริมความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ประกันอุบัติเหตุ จากประกันติดโล่ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสามารถเลือกแผนได้ตามความต้องการ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในสถานการณ์ฉุกเฉิน สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.prakantidloh.com/ หรือติดต่อโดยตรงได้ที่ เงินติดล้อ ทุกสาขา
