สำนักงาน กปร.นำสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริเยี่ยมชมผลสำเร็จการขยายผลและยกระดับเกษตรกรศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ หมู่ 7 ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 เวลา 09.00 น. นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (เลขาธิการ กปร.) พร้อมด้วยนางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. นายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. นำคณะสื่อมวลชนในโครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรผสมผสานของโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริของนายสามารถ พูลเกษม (สวนเกษตรสามารถ) และนายสุกิจ สุภาพงศ์ (สวนยายเหรียญ) เกษตรกรต้นแบบหมู่ 7 ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาปฏิบัติใช้จนประสบความสำเร็จ ได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ เพื่อการศึกษาดูงานของเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจ


นายสามารถ พูลเกษม (สวนเกษตรสามารถ) เกษตรกรเจ้าของแนวคิด “ไม่มีอะไรที่ทําไม่ได้ คิด ศึกษา แล้วทํา” ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การทำเกษตรที่ยั่งยืน ทำให้พื้นที่จำนวน 4 ไร่ เกิดเป็นรายได้เฉลี่ย 76,000 บาทต่อปี โดยในพื้นที่มีกิจกรรมเพื่อการศึกษาดูงานที่หลากหลาย อาทิ กิจกรรมเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ระบบน้ำอัจฉริยะ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการทําเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริมาประยุกต์กับเทคโนโลยีระบบน้ำอัจฉริยะ สำหรับใช้ในแปลงปลูกไม้ผล พืชผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา โดยผลผลิตในแปลงปลูกพืชมีหลากหลายชนิด อาทิ ดอกแค สะเดา กล้วยน้ำว้า มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง ละมุด ข้าว และเลี้ยงไก่พื้นเมือง ผลผลิตที่ได้เพื่อการบริโภคในครัวเรือน ส่วนที่เหลือแบ่งปันและขาย ดํารงตนตามวิถีพอเพียง ทำให้มีรายได้มั่นคงและต่อเนื่อง





โอกาสนี้ เลขาธิการ กปร.และคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการจัดสรรที่ดินในการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ และกิจกรรมต่าง ๆ ในแปลงเพาะปลูก อาทิ การให้น้ำพืชด้วยระบบอัจฉริยะ การเลี้ยงไก่ไข่ การเลี้ยงปลา การปลูกพืชผัก และไม้ผลแบบผสมผสาน




จากนั้น เลขาธิการ กปร.และคณะสื่อมวลชนได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริด้านเกษตรผสมผสานของนายสุกิจ สุภาพงศ์ (สวนยายเหรียญ) ซึ่งมีคติประจำใจในการประกอบอาชีพ คือ “ตามรอยเท้าพ่อ สานต่องานอาชีพ เป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม” ไม่หวงความรู้และประสบการณ์ ถ่ายทอดสู่ชุมชนและผู้สนใจ เป็นแบบอย่างสังคมแบ่งปัน สร้างรายได้ทั้งตนเองและชุมชน เป็นเกษตรกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง และการแปรรูปสมุนไพรเพื่อสุขภาพ มีรายได้เฉลี่ย 300,000 บาทต่อปี



โดยในแปลงเกษตรของนายสุกิจมีพื้นที่จำนวน 3 ไร่ มีกิจกรรมเรียนรู้ด้านเกษตรแบบผสมผสานวิถีพอเพียง การเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงเพื่อช่วยผสมเกสรพืช และการแปรรูปน้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ปลูกพืชแบบผสมผสาน ทั้งพืชให้ผล เช่น มะนาว มะพร้าว มะม่วง และพืชสมุนไพร อาทิ ไพล ย่านางแดง ขมิ้น อ้อย ว่านเอ็นเหลือง โดยนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ น้ำมันไพล โลชั่นถนอมผิว สบู่ก้อนสมุนไพร สบู่เหลวสมุนไพร แชมพูสระผมสมุนไพร ยาหม่องสมุนไพร สบู่สับปะรด



นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ภายในพื้นที่ให้เยี่ยมชม อาทิ แปลงผักและไม้ผลแบบผสมผสาน พืชสมุนไพร การเลี้ยงผึ้งโพรง การเลี้ยงชันโรง การแปรรูปสมุนไพร และการบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ การสาธิตการแยกรังชันโรง และวิธีการเก็บน้ำหวานชันโรง




สำหรับศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริของโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ เป็นการส่งเสริมการดำเนินงานของเกษตรกรเครือข่ายที่มีศักยภาพสามารถจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นตัวอย่างความสำเร็จในการนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ มาพัฒนารูปแบบการประกอบอาชีพ และเป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกร รวมถึงผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้และนำไปปฏิบัติ โดยปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้ในพื้นที่ขยายผลของโครงการจำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วย ด้านเกษตรอินทรีย์ 7 แห่ง และด้านเกษตรผสมผสาน 3 แห่ง

โครงการขยายเสริมเพิ่มเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงสร้างความยั่งยืนให้แก่เกษตรกร โดยสำนักงาน กปร.ได้ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง และศูนย์สาขา กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินและจัดทำเป็นคู่มือการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ ตามกระบวนการ Plan Do Check Act : PDCA ทั้งนี้ มีศูนย์เรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินแล้วทั่วประเทศ จำนวน 221 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ หลากหลายสาขา เช่น ด้านเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ ประมง ปศุสัตว์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้สนใจได้เข้าไปศึกษาหาความรู้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตให้เกิดความยั่งยืนต่อไป