นบร.12 รวมพลังชวนพี่น้อง นบร.และพพร.อาสา สืบสานพระราชดำริ

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ นบร.12 จัดกิจกรรม “นบร.12 อาสา สืบสานพระราชดำริ” ขึ้น ณ พื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร โดยรวมพลังกับพี่น้อง นบร. และพพร.ที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ เข้าร่วมกิจกรรมฯ ซ่อมแซมฝายชะลอน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผืนป่า รวมถึงศึกษาดูงานกิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนางสาวสุดารัตน์ คุสินธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันอนุชิตพิพรรธน์ ผู้แทนสำนักงาน กปร. ร่วมกิจกรรมพร้อมกับให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) โดยสถาบันอนุชิตพิพรรธน์ ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) และหลักสูตรนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะแบบอย่างในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติ สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการนำองค์กรในการบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระราชทานไว้เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาที่ปฎิบัติหน้าที่ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริมีความรู้ ความเข้าใจ และร่วมกันสร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนและขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดความยั่งยืนต่อไป


การจัดกิจกรรม “นบร.12 อาสา สืบสานพระราชดำริ” จัดโดยผู้ผ่านการศึกษาอบรมหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ นบร. รุ่นที่ 12 เพื่อสร้างและพัฒนาเครือข่ายนักบริหารการขับเคลื่อนและขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการเสริมสร้างเอกลักษณ์ คน กปร. ตัวคูณ ให้เกิดการขยายผลมากขึ้น โดยกิจกรรมประกอบด้วย การรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จากนั้นลงฐานกิจกรรมการสาธิต ประกอบด้วย งานศึกษาและพัฒนาประมง โดยการศึกษาการเลี้ยงปลาที่เหมาะสมกับท้องถิ่น เช่น การเพาะเลี้ยงปลานิล งานศึกษาและพัฒนาด้านข้าว ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับท้องถิ่น มีการแปรรูปน้ำข้าวกล้องงอก การทำขนมไดฟูกุ จากข้าวที่ให้รสชาติหอมหวานละมุน งานศึกษาและพัฒนาปศุสัตว์ ฐานนี้จะเห็นการพัฒนาพันธุ์สัตว์เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรและตลาดโดยยึดแนวพระราชดำริ คือสัตว์ที่จะนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรต้องเป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย ใช้เทคโนโลยีในการเลี้ยงแบบง่ายๆ ต้องเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเข้ากับสภาพการเลี้ยงตามภูมิสังคม ทนทานต่อโรคระบาด ลงทุนไม่มาก สามารถหาอาหารหรือใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น จากจุดเริ่มต้นที่คนทั่วไปรู้จักพันธุ์สัตว์ในนาม 3 ดำ มหัศจรรย์แห่งภูพาน ประกอบด้วย ไก่ดำภูพาน หมูดำภูพาน โคเนื้อภูพาน ปัจจุบันพัฒนาสู่การเป็น 5 ดำ ได้แก่ แพะดำภูพาน กระต่ายดำภูพาน นอกจากนี้ยังพัฒนาสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ไก่ดำภูพานแช่แข็ง กระต่ายดำภูพานแช่แข็ง เนื้อแพะขุนภูพานปรุงรสเสียบไม้ คั่วแซบหมูดำภูพาน ไส้กรอกแพะขุนภูพานผสมเนื้อไก่ และผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายชนิด เพื่อสะดวกแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเยี่ยมชมงานส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัว การทำผ้าย้อมคราม ซึ่งนำความรู้และประสบการณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้กับการสร้างลวดลายผ้าให้เหมาะสมกับยุคสมัยโดยใช้วิธีการย้อมครามที่สืบทอดกันมาช้านาน และเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดสกลนคร


จากนั้นคณะร่วมทำกิจกรรมซ่อมแซมฝายพ่อ ณ บริเวณพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ โดยฝายแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เคยเสด็จพระราชดำเนินผ่านเมื่อปี 2532 เมื่อครั้งมาทรงติดตามการดำเนินงานในเรื่องการสร้างฝายชะลอน้ำ จึงเป็นที่รู้จักในนาม ฝายพ่อ ที่สร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผืนป่า ทำให้พื้นที่ที่เคยแห้งแล้งกลับคืนความสมบูรณ์อีกครั้ง นอกจากนี้ยังร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดลงแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อสร้างแหล่งอาหารโปรตีนต่อไป



สำหรับการจัดกิจกรรม “นบร.12 อาสา สืบสานพระราชดำริ” ครั้งนี้ ได้สร้างความรู้ ความเข้าใจแนวพระราชดำริในการพัฒนาด้านต่างๆ ตลอดจนการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้ปฏิบัติงานที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน เสริมสร้างเอกลักษณ์ คน กปร. ตัวคูณ ที่จะร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอดแนวพระราชดำริตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เกิดความยั่งยืนสืบไป