วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ รายงานสภาพอากาศว่า มีมวลอากาศต่ำจากจีนแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน ส่งผลให้อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา ซึ่งเชียงใหม่อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 27 องศา มีฝนตก 30 % ของพื้นที่ ลมกรรโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-20 กิโลเมตร/ชั่วโมง บริเวณเทือกเขาต่ำสุดที่ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง วัดได้ 10 องศา พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง 11 องศา กิ่วแม่ปาน 12 องศา และอ่างขาง อ.ฝาง 14.7 องศาตามลำดับ
น.ส.พัชรี นันต๊ะสาร เจ้าของเรือนแพดอยเต่าริมปิง อ.ดอยเต่า เผยว่า ภายหลังน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ 2 รอบ ส่งผลให้น้ำปิงที่ไหลลงทะเลสาปดอยเต่า มีระดับสูงขึ้นกว่า 2-3 เมตร ทำให้เรือนแพกลับมาลอยน้ำเพื่อบริการนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง หลังเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์อาทิ โค กระบือ กว่า 10,000 ตัว วันนี้ทะเลสาบดอยเต่า กลับมาสวยงามอีกครั้ง อยากเชิญชวน
นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสบรรยากาศอันร่มรื่นทะเลสาบ
อีกครั้ง มีบริการนั่งเรือชมวิวห้องพัก และร้านอาหารบนเรือนแพ ลิ้มลองเมนูต้มยำปลาคังน้ำจืด ยำปลากรอบ ปลาแดดเดียวที่ขึ้นชื่อ และมีบริการเพียงแห่งเดียวที่ทะลสาปดอยเต่าเท่านั้นซึ่งค่าบริการไม่แพงอย่างใด
นอกจากนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้รับประโยชน์จากการกลับมาของทะเลสาบดอยเต่า โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้านที่สามารถกลับมาทำประมงและผลิตปลาแห้งที่ขึ้นชื่อ รสชาติอร่อยและความเป็นธรรมชาติ มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของชุมชนให้กลับมาคึกคัก อีกด้วย ส่วนบรรยากาศช่วงเย็นขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน ช่วงปลายฝนต้นหนาวขณะนี้กำลังดี นักท่องเที่ยวที่ไปท่องเที่ยวทะเลวาบดอยเต่าต่างประทับใจชมแสงพระอาทิตย์ที่กลังจะลับขอบฟ้าตัดกับผืนน้ำสวยงามอย่างน่าประทับใจนัก
ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาเที่ยวทะเลสาบ สามารถเดินทางมาได้โดยใช้เส้นทาง หลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ กว่า 125 กิโลเมตร