ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายกุล ภาคเดียว รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี ได้แถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านปราบปรามการทุจริต ประจำปี 2567 ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี โดยได้มีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวน 5 เรื่องด้วยกัน
นายกุล ภาคเดียว รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงวันที่ 29 กันยายน 2567 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจด้านการปราบปรามการทุจริต จำแนกรายละเอียดตามขั้นตอนการดำเนินการ สรุปได้ว่า ชั้นตรวจรับคำกล่าวหา จำนวน 136 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 120 เรื่อง ในชั้นการตรวจสอบเบื้องต้น จำนวน 109 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 58 เรื่อง และในชั้นการไต่สวน จำนวน 53 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 เรื่องโดยได้ดำเนินการส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดแล้ว จำนวน 5 เรื่องส่วนอีก 1 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการส่งไปยังอัยการสูงสุด
นายกุลฯกล่าวต่อว่าโดยเรื่องที่ 1 กรณีกล่าวหา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองลาดสวาย กับพวก จัดทำโครงการ “การทำผลิตภัณฑ์เกลือสปา” และ “การทำผลิตภัณฑ์สบู่สมุนไพร” เมื่อเดือนมิถุนายน 2556และเดือนกรกฎาคม 2556 อันเป็นเท็จ
เรื่องที่ 2 กรณีกล่าวหา หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองท่าโขลง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี กับพวก พิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคาในการจัดซื้อวัสดุดับเพลิง จำนวน 14 รายการ ของเทศบาลเมืองท่าโขลง ในปี พ.ศ. 2559 โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
เรื่องที่ 3 กรณีกล่าวหา นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ สังกัดสำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี ว่าเบียดบังเงินมัดจำรังวัดไปใช้ส่วนตัวโดยมิชอบ
เรื่องที่ 4 กรณีกล่าวหา เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานการศึกษา ฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจ เรือนจำอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี กรมราชทัณฑ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก เบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนวิทยากร โครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559เป็นเท็จ และทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนของเรือนจำอำเภอธัญบุรีที่ได้รับจากวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรีในปีการศึกษา 2559-2560และเรื่องที่ 5 กรณีกล่าวหาผู้บริหาร อบต.บึงกาสาม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก ว่ากระทำการทุจริต กรณีโครงการก่อสร้างถนน คอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ซอย 3 หมู่ที่ 9 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากไม่มีการเสริมเหล็ก และมีการฮั้วประมูลในการก่อสร้างถนน
ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
จึงฝากเตือนไปยังหน่วยงานภาครัฐไม่ว่าจะเป็น อปท.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทางภาครัฐที่มีหน้าที่ในการใช้จ่ายงบประมาณของแผ่นดินนั้นให้ระมัดระวังในการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐให้เป็นไปตามระเบียบและรอบคอบอย่าปล่อยปะละเลยไม่เข้มงวดซึ่งอาจจะก่อเกิดการบกพร่องหรือเกิดช่องโหว่ทำให้เกิดมีการทุจริตซึ่งอาจจพทำให้ถูกดำเนินคดีแม้ในชั้นนี้อาจจะยังไม่มีความผิดแต่ก็อาจจะทำให้เดือดร้อนลำบากทุกข์ร้อนในการดำเนินชีวิต จึงฝากเตือนไปยังหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดและรอบคอบเพื่อจะได้ดำรงอยู่ได้อย่างปลอดภัยในชีวิตราชการต่อไป