เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 8 กันยายน 2567 ร.ต.อ.สุชาติ จำนงบุญ รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยายนต์เฉี่ยวชนท้ายรถยนต์กระบะร่างคนขับรถจักรยานยนต์ กระเด็นไปถูกรถบรรทุกพ่วงขับตามมาทับซ้ำเสียชีวิต บนถนนโรจนะขาออก มุ่งหน้าไปทางสี่แยกอุทัย ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 12 ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ให้การช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบ ร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นาย ปิยะ เพ็ชรสุข อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 9 ตำบลพุคำจาน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี สวมใส่เสื้อแขนยาวสีเทาดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล ร้องเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกกันน็อค สีดำ สพาพศพถูกล้อรถบรรทุกพ่วงทับเข้าที่ศีรษะจนศีรษะแตกเละคาหมวกกันน็อคที่สวมใส่ และยังพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ฮอนด้าเวฟ สีแดง ล้มคว่ำอยู่ ใกล้กันพบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บธ 9071 อ่างทอง มีร่องรอยเฉี่ยวชนไฟท้ายด้านซ้ายแตก ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อ ฮีโน่ หมายเลขทะเบียน ตัวแม่ 83 – 1250 พิษณุโลก ทะเบียนตัวลูก 83 – 1251 พิษณุโลก ที่ล้อหน้าลูกพ่วง มีรอยเลือดและเศษชิ้นส่วนมนุษย์ติดอยู่
ต่อมามีครอบครัวผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึง ยังอยู่ในอาการตกใจและช็อค เปิดเผยสั้นๆว่าผู้เสียชีวิตพึ่งเดินทางกลับมาจากไปพักผ่อนที่เขาใหญ่กำลังเดินทางกลับบ้านแต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนถึงบ้าน
สอบถาม นาย เฉลิมพล พันธุ์ไม้ อายุ 40 ปี ( เสื้อสีฟ้า ) คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่าตนเองขับรถมาส่งสินค้าห้างสรรพสินค้าใกล้จุดเกิดเหตุพอส่งเสร็จ ขากลับตนเองออกมาแล้วก็วิ่งขวาเพื่อจะกลับรถตรงยูเทรินกลับรถ จังหวะนั้นได้ยินเสียงโดนชนท้าย รถจักรยานยนต์ก็สะบัดไปทางซ้าย เป็นจังหวะที่รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวขับมาด้านข้างพอดีทำให้ทับพอดีจนเสียชีวิต
ด้าน นาย อนุชา หุนกระโทก อายุ 28 ปี ( เสื้อสีแดง )คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า จังหวะช่วงเกิดเหตุรถไม่รู้สึกหรือมีอาการเพราะบรรทุกสินค้ามาหนักด้วย มารู้ตอนรถบัสที่ขับตามหลังมา บีบแตร ให้จอด พอจอดแล้วถึงเห็นว่าเขาชนรถกระบะแล้วกระเด็นไปที่ล้อหลังด้านขวาทับพอดี ไม่เห็นจริงๆ ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิด รู้สึกเสียใจ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเชิญตัวคนขับรถยนต์กระบะและรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวไปสอบถามเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมให้อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานีก่อนมอบร่างให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป