เมื่อวันที่ 8 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านหนองแสง หมู่ 4 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้รับความเดือดร้อนจาก ช้างป่า ลงมาจากภูวัว บุกเข้าทำลายบ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร กัดกิน ทำลายนาข้าว พืชไร่เสียหาย จนชาวบ้านไม่กล้าเข้าไร่นาเข้าสวนเพราะ ไม่มั่นใจ ในความปลอดภัย แจ้งทางผู้นำชุมชน และทางอำเภอก็ทำอะไรไม่ได้ต้อง ขับไล่ช้างเอง ขอให้ทางจังหวัดและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เข้ามาดูแลและหาวิธีป้องกันด้วย…
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพบกับนายณรงค์ แพงสุข อายุ 28 ปี ชาวบ้านหนองแสง หมู่ 4 ตำบลท่าดอกคำ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เจ้าของกระท่อมนาที่เกิดเหตุ ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงกลางคืนได้มีช้างป่าเข้ามาที่นาตนเอง นับรอยเท้าโขลงใหญ่ประมาณ 14 ตัว เข้าไปทำลายกระท่อม กินพืชผลทางการเกษตรซึ่งตนเองได้ปลูกไว้ มีกล้วย และหน่อไม้ ฯลฯ ซึ่งมีรอยเท้าขนาดใหญ่เต็มไปหมด ช้างจะลงมากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านหลายครั้ง ซึ่งเคยเกิดเหตุหญิงรายหนึ่งในหมู่บ้านเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย ด้านคุณตาดี ฟาร์มเลี้งกบเนื้อ ก็เล่าฟังว่าเมื่อคืนมีช้างมากินหน่อไม้ เยียบต้นข้าวเสียหายเป็นทางยาว พบรอยเท้าช้างป่าขนาดเล็กและขนาดใหญ่บริเวณโดยรอบนับ 14 ตัว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูและและหาวิธีการป้องกันให้ด้วย
ขณะเดียวกันพื้นที่การเกษตรที่อยู่ใกล้เคียงของชาวบ้านหนองแสง หมู่ 4 และบ้านหนองแสงพัฒนา หมู่ 11 ทั้ง อ้อย ฝรั่ง ทุเรียน นาข้าว และสวนยางพารา ก็ถูกช้างป่าเข้ามาเสียหายจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งผู้นำชุมชนตั้งข้อสังเกตว่า ทุกปีช้างป่าจะลงมาเฉพาะฤดูฝนพืชผลทางการเกษตรกำลังออกดี แต่ปีนี้ได้ลงมาหลายรอบ และยังไม่ยอมกลับขึ้นไปบนภูเขา
นายวิษณุ กุมภาว์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าภูวัว เปิดเผยว่า ขณะนี้มีช้างป่าประมาณ 2-3 กลุ่มที่หากินนอกแนวเขตป่า ซึ่งสาเหตุมาจากความช้างป่าเลือกช่วงฤดูกาลพืชผลทางการเกษตรชาวบ้านกำลังออกยอดอ่อน ซึ่งอีกช่วงหนึ่งคือช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว จึงทำให้โขลงช้างลงมาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน โดยจะวางแผนลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อยากให้ชาวบ้านได้แจ้งผู้นำชุมชนเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง หรือถ้าเป็นไปได้ให้ถ่ายรูปส่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้บันทึกรูปพรรณลักษณะของช้างกลุ่มนี้เพื่อเจ้าหน้าที่เข้าเฝ้าระวังไม่ให้เกิดอันตรายต่อไป
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ ทีมข่าว-รายงาน