ภาพกล้องวงจรปิดบันทึก ภาพมุมต่างๆจากหลายร้านค้าขายกุ้งในตลาดกลางเพื่อการเกษตร ต่างวันเวลนา พฤติกรรมที่พบ คนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาภายในตลาดกลางเพื่อการเกษตร ตระเวณช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.จนถึงเวลา 05.00 น. ก่อนจะสบโอกาส มุดเข้าไปภายในร้านขายกุ้งแล้วนำตะกร้า หรือสวิง เข้าไปขโมยตักกุ้ง ซึ่งอยู่ในบ่อพักตามหน้าร้าน นำใส่ถุงปุ๋ยและถุงพลาสติก ที่เตรียมไว้แล้วก็ขึ้นจักรยานยนต์ที่ขับมาหลบหนี บางรายขณะเข้ามาก่อเหตุคนเฝ้าร้านเป็นผู้หญิงร้านเปิดไฟไว้ พอมาเจอคนร้ายก็ปิดไฟ จนทำให้คนร้ายต้องรีบทิ้งถุงกุ้งและรีบหนีออกไปทันที แต่ก็ไม่เกรงกลัว เข้ามาก็เหตุซ้ำอีกทั้งนี้มีกล้องวงจรปิดก็ไม่กลัว และยังพบว่าคนร้ายไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ที่เจ้าของรถเผลอเสียบกุญแจคาไว้ อีก 2 คัน ซึ่งกล้องวงจรปิดก็สามารถบันทึกภาพไว้ได้ โดยรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาก็ไปก่อเหตุขโมยกุ้ง
จนวันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ห้อง สืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง
รอง ผบก.สภ.พระนครศรีอยุธยา รรท.ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.กัมพล อินทรีวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ. พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ. พระนครศรีอยุธยา นำตัวนาย นิสิต หรือ( เท่ง ) อายุ 35 ปี ชาวอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีก่อเหตุลักทรัพย์ กุ้ง ภายในตลาดกลางเพื่อการเกษตร ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณร้านที่ก่อเหตุทั้งหมด 4 ร้าน คือ ร้านผ่องพรรณกุ้งเผา ,ร้านอาหารสถานีกุ้งสาขา 2 ,ร้านอาหารโชคอำนวย 1 และร้านอาหารทะเลซีฟู้ด ป.เป้ากุ้งเผา
พ.ต.ท มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผย สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็น เจ้าของร้านโชคอำนวย 1 ประกอบกิจการค้ากุ้งภายในตลาดกลางเพื่อการเกษตรได้ ได้รับความเดือดร้อน จากคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยกุ้ง ที่นำมาขายให้ลูกค้าได้หายไป จำนวนหลายกิโลกรัม แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ จนคนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำในช่วงเวลา 04.00 น. ของเมื่อคืนวานโดยมีลูกน้อง เจ้าของร้านได้ตื่นมาเจอคนร้ายขณะเข้ามาขโมยกุ้งภายใน บ่อพักกุ้งที่หน้าร้าน คนร้ายเห็นแล้วรีบนำกุ้งที่ขโมยได้ใส่ถุงขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนั้นผู้เสียหายจึงเปิดกล้องวงจรปิดและนำหลักฐานมาแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน
ต่อมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.สภ.พระนครศรีอยุธยา รรท.ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.บุญเกิด พุ่มพวง สว.สส.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.นคร ซาเสน สว.สส. พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและออกติด ติดตามจับกุมตัว นายนิสิต ( เท่ง ) ผู้ต้องหาได้ ภายในบ้านพัก ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางเป็นชุดเสื้อผ้าและรองเท้า ขณะใส่ในวันก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัว มาที่ สภ. พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการสอบสวน
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปขโมยกุ้งภายในร้านตลาดกลางจริง และกุ้งที่ได้ไปจะนำไปตระเวณขายต่อให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเจ้าพรหม ในราคา กิโลกรัมละ 100 บาท ทำมาแล้วหลายครั้ง และยังไปก่อเหตุขโมย รถจักรยานยนต์ อีก 2 คัน ภายในหอพักในตัวเมืองอยุธยา เข้าไปลักทรัพย์ ทีวีจอแบนภายในร้านขายของ ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา
โดยพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ มาแล้วถึง 9 ครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทรัพย์สินที่ได้ก็จะนำไปขายและนำมาซื้อยาเสพ ตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติคดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ และ ลักทรัพย์ในเวลากลาง ซึ่งจะทำการตรวจสอบขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทางด้าน นาย พิสิษฐ์ สายอยู่ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านโชคอำนวย 1 และเป็นประธานตลาดกลางเพื่อการเกษตร เปิดเผยว่า ตนเองเป็นเจ้าของร้าน และเป็นคนไปซื้อกุ้งมาลงขายที่ร้านเองทุกวัน แต่มาสังเกตหลายเดือนที่ผ่านมาพบว่าทำไมเวลาขายกุ้งหมดแล้วถึงไม่ได้กำไร แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนมาเมื่อคืนที่ผ่านมาลูกจ้างในร้านตื่นขึ้นมาพบผู้ต้องหากำลังเข้ามาขโมยกุ้งใส่ถุงแล้ว ขึ้นรถจักรยานยนต์ หลบหนีไป จึงมาบอกกับตนเอง ตนจึงได้ไปขอภาพกล้องวงจรปิด ของทางตลาด ก็พบเห็นพฤติกรรมของคนร้าย รายนี้จึงนำหลักฐานกล้องวงจรปิดไปส่งมอบให้กับตำรวจเพื่อติดตามจับกุมตัวจึงสามารถจับกุมตัวได้สำเร็จ
ส่วนกุ้งทางร้านที่หายไปนั้นเริ่มหายมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา หายวันละประมาณ 3 – 5 กิโลกรัม รวมกุ้งที่คนร้ายขโมยไป 100 กว่ากิโลกรัม มูลค่าความเสียหายประมาณ 50,000 บาท เพราะกุ้งที่คนร้ายขโมยนั้นจะเลือกไซส์ใหญ่ราคา 450 ถึง 500 บาท และคนร้ายรายนี้ก็ยังก่อเหตุ ขโมย กุ้ง ตามร้านค้าต่างๆภายในตลาด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกลุ่มตัวคนไร้รายนี้ได้ อย่างรวดเร็วแต่ตนก็ยังไม่ชะล่าใจเพราะว่าถึงคนร้ายรายนี้จะถูกจับกุมตัวไป ก็จะมีคนร้ายรายใหม่เข้ามาขโมยกุ้งลักษณะแบบนี้อีก คงจะต้องระวังให้มากกว่านี้ ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อป้องกันกันต่อไป