ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วิไลภรณ์ วังอินทร์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ธนพร ศรียันต์ อายุ 57 ปี ชาวบ้าน จ.นนทบุรี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจาก นายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชน จ.ปทุมธานี หลังได้ทำสัญญาซื้อขายล๊อตเตอรี่กับนางสุจิตร เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 ก.พ.67 โดยน.ส.วิไลภรณ์ ได้ทำาญญาซื้อขายล็อตเตอรี่ จำนวน 62 กล่อง 18,600 ใบ เป็นเงิน 1,759,500 บาท ส่วน น.ส. ธนพร 70 กล่อง 21,000, ใบ เป็นเงิน 2,665,100 บาท รวมยอด ล็อตเตอรี่ 29,600 ใบ ยอดรวมสองรายเป็นเงิน 4,220,900 ยาท ในงวดวันที่1 มี.ค.77 และนางสุจิตรรับปากว่า จะนำล็อตเตอรี่มาให้ ในวันที่ 22-23 ก.พ.67 แต่ถึงเวลากลับไม่ได้รับล็อตเตอรี่ดังกล่าว ทั้งยังติดต่อนางสุจิตร ไม่ได้ โดยทั้งคู่ได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ศุภลักษณ์ พรมวงษ์ พงส.สภ.บางบัว ทอง เมื่อวันที่ 28 ก.พ.67
โดยน.ส.วิไลภรณ์ กล่าวว่า ได้ทำสัญญาซื้อขายมา 6 งวดกับนางสุจิตร ในราคาหลัก 3-8 แสน บาท ก็ไม่เคยเกิดปัญหาดังกล่าวด้วยความไว้ใจจึงไม่คาดคิดจะเกิดปัญหาแบบนี้ ตนลำบากมาก ขณะนี้กำลังตั้งท้องได้ 6 สัปดาห์ ซ้ำยังมีโรคประจำตัว อยากให้นางสุจิตร ที่ตนนับถือเหมือนแม่คนหนึ่ง ออกมารับผิดชอบ เพราะตอนนี้เครียดมาก จึงประสานขอความช่วยเหลือนายศรรัก ให้ช่วยติดตามนางสุจิตร ให้
ด้านน.ส.ธนพร เปิดเผยทั้งน้ำตา เล่าเหตุการณ์ไปร้องไห้ไป ว่า ตนลงทุนซื้อขายกับนางสุจิตร มา 5 งวดแล้ว แต่งวดนี้มาเกิดเรื่องขึ้น รู้สึกเครียดมากเพราะไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน แต่กลับมาเจอแบบนี้ หลังวันนัดหมาย 22 ก.พ.67 ไม่มีการนำล็อตเตอรี่มาส่งให้ จึงโทรกลับไปหานางสุจิตร แต่มีผู้ชายรับสายแทน อ้างว่าเจ้าของเครื่องลืมมือถือเอาไว้ อีกรอบผู้หญิงรับสาย พอรุ่งขึ้นอีกวัน (23 ก พ.) ซึ่งจะต้องนำล็อตเตอรี่ออกขายแล้ว ก็ยังเงียบ จนนางสุจิตร โทรกลับมา แจ้งว่าอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู มาติดตามล็อตเตอรี่ให้ท้งคู่อยู่ จากนั้นก็ไม่รับสาย และติดต่อไม่ได้อีกเลย จนรู้ตัวว่าถูกเชิดเงินหนีแน่แล้ว จึงพากันไปแจ้งความ ทราบว่านางสุจิตร มีลูกสาว 2 คน ลูก ชาย 1 คน ซึ่งเป็นทหารอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์.
ด้านนายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชน จ.ปทุมธานี กล่าวว่าหลังจากรับเรื่องราวดังกล่าวแล้วตนจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือนำเงินที่ถูกเอาไปจำนวนสี่ล้านกว่าบาทกลับคืนมาให้ผู้ร้องที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทราบว่าถูกที่นำเงินไปมีลูกชายซึ่งเป็นทหารซึ่งหากหาคนที่นำเงินของผู้เดือดร้อนทั้งสองไม่พบตนจะเดินทางไปหน่วยงานทหารของลูกชายที่เป็นทหารเพื่อให้ออกมารับผิดชอบในครั้ง เนื่องจากลูกชายของคนที่เอาไปนั้นเคยนำล็อตเตอรี่มาส่งแก่ผู้เดือดร้อนทั้งสองรายนี้
ทั้งนี้ตนเองมองว่าขบวนการนี้ทำกันเป็นขบวนการใหญ่เหมือนหลอกให้คนตายใจ จึงฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการทั้งหลายควรมีความรอบคอบมากกว่านี้ ซึ่งตนคาดว่าต้องมีผู้เสียหายมากกว่าทั้งสองรายนี้อีกอย่างแน่นอนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบให้ถึงต้นตอเพื่อไม่ให้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับใครอีก
ณรงค์ศักดิ์ น้ำจันทร์ // รายงาน