ชาวม่อนแจ่ม จัดพิธีรำลึกถึง “หมอก้อย” พร้อมปกป้องพื้นที่ศาสนสถาน หลังนายทุนบุกรุกสุสาน 5 ไร่ พบปักหมุดแผ้วทางวางท่อส่งน้ำ ร้อง 4 หน่วยงานตรวจสอบให้เวลา 15 วัน ไม่คืบหน้าแจ้ง ม.157

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ที่บ้านหนองหอยเก่า หมู่ 7 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านกว่า 200 คน นำโดย นายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ได้จัดพิธีรำลึกถึง น.ส.จันทร์ศิริ วาทหงษ์หรือหมอก้อย อดึตเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิโครงการหลวง ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ในฐานะบุคคลที่ทำประโยชน์และมีคณุปการด้านสาธารณสุขและต่อต้านยาเสพติดในชุมชน มีนายวิชิต เมธาอนันต์กุล นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม  นายสุรินทร์  นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า ศ.ดร.อาณัฐ ตันโช ที่ปรึกษากองทุนปุ๋ยอินทรีย์และไฮโดรโพนิคส์ มูลนิธิโครงการหลวง พร้อมคณะกรรมการชุมชน และประชาชนเข้าร่วมกว่า 200คน

ระหว่างนั้น ศ.ดร.อาณัฐ ได้กล่าวและบอกเล่าประวัติ น.ส.จันทร์ศิริ และนายสุรชาติเตชะเลิศพนา อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า ได้กล่าวรำลึกถึงคุณงามความดีผู้วายชนน์ ให้ผู้ร่วมงานได้รับทราบ ก่อนนำผู้ร่วมงานวางช่อดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยที่กู่บรรจุอัฐิ บริเวณศาสนสถาน (สุสาน) ของหมู่บ้านดังกล่าว ตามลำดับ

จากนั้นนายสุรชาติ ได้นำชาวบ้านสำรวจและตรวจสอบพื้นที่บริเวณศาสนสถาน ที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุก โดยพบร่องรอยปักหมุด และฝังท่อน้ำ ในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 5 ไร่ ทางคณะกรรมการชุมชน และชาวบ้าน จึงบันทึกภาพเพื่อเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีผู้บุกรกศาสนสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน ก่อนนายสุรชาติ ได้กล่าวประกาศจุดยืนคัดค้าน พร้อมประนามการบุกรุกดังกล่าว

นายสุรชาติ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นศาสนสถาน หรือสุสานของหมู่บ้านเป็นที่ฝังศพบรรพบุรุษ มากว่า 100 ปีแล้วซึ่งเป็นแห่งจิตวิญญาณของชาวบ้าน เนื่องจากเป็นป่าต้นน้ำ ที่ชุมชนสงวนไว้เป็นป่าอนุรักษ์ที่ประโยชน์ร่วมกันจำนวน 22 ไร่ ซึ่งกลุ่มนายทุนพยายามบุกรุก เมื่อปี 2564 หรือกว่า 3 ปี มาครั้งหนึ่ง แต่ถูกชาวบ้านต่อต้าน กระทั่งวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เข้าบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ดังกล่าวกว่า 5 ไร่  พร้อมปักหมุดแสดงอาณาเขตโดยอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) จำนวน 1 ไร่ อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้คณะกรรมการชุมชน ได้ทำหนังสือร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 แห่ง คืออำเภอแม่ริม สำนักงานที่ดิน อำเภอแม่ริม โครงการหลวง และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ได้ให้เวลาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 15 วัน ถ้าไม่มีความคืบหน้า จะเข้าแจ้งดำเนินคดีตาม ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าต่อไป