“จักรกฤษณ์” สท.เมืองแกนพัฒนา ร้องสื่อ ต้นปาล์มเส้นทางเสด็จฯ สายใยรักแห่งครอบครัวถูกตัด กระทบจิตใจความรู้สึกชาวบ้าน ยื่นเรื่องนายอำเภอ ส่งให้ผู้ว่าฯ ศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบ

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายจักรกฤษณ์ ไชยยา สมาชิกสภาเทศบาลเมือง (ทม.) เมืองแกนพัฒนา เขต 2 พร้อมตัวแทนชุมชนหนองออน 1 รวม 5 คน ได้ร้องเรียนและพาสื่อมวลชน ตรวจสอบการตัดต้นปาล์มริมถนนทางเข้าชุมชนหนองออน ใกล้วัดหนองออน หมู่ 10 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเคยเป็นเส้นทางเสด็จฯ มาที่วัดดังกล่าว ตามโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ที่เป็นความทรงจำ และมีคุณค่าที่หาที่สุดมิได้ เบื้องต้นพบร่องรอยตัดต้นปาล์ม ซึ่งเหลือแต่ตอไม้ ขนาดลำต้นใหญ่กว่า 12 นิ้ว ความสูงกว่า 20 ต้น รวม 20 ต้น เพื่อขยายไหล่ทางถนนเข้าชุมชนดังกล่าว กว่า 300-400 เมตร

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า ต้นปาล์มดังกล่าว ใช้งบประมาณ ทม.เมืองแกนพัฒนา ปลูกเมื่อปี 2547 หรือ 20 ปี ที่ผ่านมา เพื่อปรับภูมิทัศน์เส้นทางเสด็จดังกล่าว กระทั่งวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา นายอนันต์ ผัดเจริญ ประธานชุมชนหนองออน 1 และเจ้าหน้าที่เทศบาล ได้นำเครื่องจักรตัดต้นปาล์มดังกล่าวโดยใช้วิธีตัดทิ้งทั้งหมด ไม่ได้ใช้วิธีขุดล้อมทั้งต้น เพื่อนำไปปลูกหรือขยายพันธุ์ที่อื่น ซึ่งชาวบ้านในชุมชน ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกของชาวบ้านอย่างมาก

“ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำดังกล่าว ไม่มีการทำประชาคมชุมชนรับฟังความคิดเห็นคนส่วนใหญ่ มีเพียงประชุมแกนนำชุมชนให้รับทราบ และลงมติสนับสนุนขยายไหล่ทางเท่านั้น แต่ไม่มีแผนหรือโครงการขยายไหล่ทางถนนในเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ปี 67 รองรับอย่างใด ที่สำคัญเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการหรือไม่และเป็นการรู้เห็นเป็นใจกับผู้บริหารเทศบาลหรือไม่ อาจเข้าข่ายการกระทำที่ลุแก่อำนาจ และเกินขอบเขตโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าว และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนตามหลักธรรมาภิบาล เบื้องต้นประเมินค่าเสียหายตามมูลค่าตลาด ต้นละ 10,000 บาท รวมเป็น 200,000 บาท” นายจักรกฤษณ์ กล่าว

ต่อมานายจักรกฤษณ์ พร้อมตัวแทนชุมชนหนองออน 1 ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าว กับนายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอแม่แตง ณ ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งนายชัยณรงค์ ได้รับเรื่องไว้ ก่อนส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ร้องทราบภายหลังต่อไป