เทศบาลนครกรุงเก่าเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองมหาชัย 1(ตลาดหัวรอ) สร้างสวนสาธารณะ ใจกลางเกาะเมืองอยุธยา

วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 ธนารักษ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผอ.ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ทีมงานที่ปรึกษาการก่อสร้างฯ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือติดตามความคืบหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์คลองมหาชัย 1(ตลาดหัวรอ) โดยหลังจากที่นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผลักดันนโยบายการสร้างสวนสาธารณะ ใจกลางเกาะเมืองอยุธยา โดยเลือกที่บริเวณคลองมหาชัย 1(ตลาดหัวรอ) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งปัจจุบันตลาดบริหารงานโดย สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองมหาไชย งบประมาณ 19 ล้านบาท มีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองพระนครศรีอยุธยารับผิดชอบ มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคลองประวัติศาสตร์ให้เกิดความสะอาดสวยงาม สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของพื้นที่ โดยเฉพาะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ยังจะปรับปรุงพื้นผิวทางเดิน พร้อมปรับปรุงดาดคอนกรีตเดิม 2 ฝั่ง และทางเดินริมคลอง ซึ่งปรับปรุงฝั่งซ้ายยาว 196 เมตร ฝั่งขวา 1,460 เมตร โดยภาพรวมของโครงการจะมีการก่อสร้างประตูระบายน้ำ และก่อสร้างบันไดท่าน้ำด้วย ล่าสุด ยังไม่ได้ผู้รับจ้างแต่อย่างใด ให้โยธาธิการและผังเมืองอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ เพราะอาจทำให้โครงการต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าได้

ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หัวรอถือเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีผู้อยู่อาศัยมาอย่างน้อย 200 ปี ตั้งแต่อยุธยาเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ในยุคปัจจุบันหัวรอมีชื่อเสียงในด้านการเป็นตลาดที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยในการประชุมในครั้งนี้เพื่อติดตามแผนการดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองมหาชัย 1 สร้างสวนสาธารณะ ใจกลางเกาะเมืองอยุธยา เพื่อเป็นการปรับปรุงคลองประวัติศาสตร์ อย่างคลองมหาชัย ให้มีความสะอาด สวยงามพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางวิถีชีวิตของประชาชนชาวหัวรอ และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว