วันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การเสริมพลังความร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ณ ห้องประชุม สำนักงาน กปร. โดยนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ โดยมีคณะผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
สำหรับพิธีลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการตลาดของเกษตรกรเครือข่ายของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนอุดมสุข สู่ธุรกิจสีเขียว (BCG) โดยเน้นบูรณาการทรัพยากร ความรู้ และเครือข่ายจากทั้งสองหน่วยงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. กล่าวว่า สำนักงาน กปร.และธ.ก.ส.จะร่วมกันสนับสนุนด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และเชื่อมโยงช่องทางการตลาดระหว่างผลิตภัณฑ์ลูกค้า ธ.ก.ส. ผลิตภัณฑ์ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ และผลิตภัณฑ์โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนยกระดับเส้นทางชุมชนท่องเที่ยว ธ.ก.ส. การถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนอุดมสุข ส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เข้าถึงองค์ความรู้ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก Carbon Credit สร้างสมดุลเชิงนิเวศ อนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของชุมชนผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
“การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุน แลกเปลี่ยน เชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างสองหน่วยงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างช่องทางการตลาดให้กับชุมชนมากยิ่งขึ้น รวมถึงเกษตรกรรุ่นใหม่และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล ให้มีโอกาสเรียนรู้ บ่มเพาะและศึกษาดูงานในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริและเชื่อมโยงองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพของเครือข่ายชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งเชื่อมั่นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและสามารถบรรลุตามเจตนารมณ์ของการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยการขับเคลื่อนร่วมกันวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละโครงการให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป” เลขาธิการ กปร. กล่าว
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเสริมพลังสร้างเครือข่ายการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ เนื่องจาก ธกส.มีวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืนในภาคการเกษตรซึ่งมี ธกส.อยู่ 1,000 กว่าสาขาในทุกอำเภอ ทุกตำบล ช่วยพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ยกระดับคุณภาพการผลิต นอกจากการเป็นเกษตรเพื่อการผลิตแล้ว ยังมุ่งยกระดับการเกษตรเพื่อการค้าอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกรเข้มแข็งและยั่งยืน สามารถก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงที่จะกระทบกับบริบทของประเทศไทย โดยการเพิ่มองค์ความรู้ เพิ่มช่องทางการผลิตและจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การแปรรูปและต่อยอด เพื่อให้เกิดมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงกิจกรรมการลดโลกร้อน ลด Carbon Credit ในชุมชนอีกด้วย ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ของ สำนักงาน กปร.และต่อยอดชุมชนอุดมสุข ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
สำนักงาน กปร.และธ.ก.ส.ร่วมลงนาม MOU เสริมพลังความร่วมมือภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยกระดับผลิตภัณฑ์ พัฒนาศักยภาพเกษตรกร สู่เศรษฐกิจสีเขียว
