เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่โรงแรมสมายล์ล้านนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดแถลงข่าวเพื่อเปิดตัวลงสมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ สมัยที่ 2 ในนามพรรคเพื่อไทย มีคณะผู้บริหารสมาชิกพรรค และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล 4 แขวง รวม 24 คนเข้าร่วมดังกล่าว โดยมีนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ สมัยที่ 2 นายสมชาติ วัฒนากล้า รองนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย มาให้กำลังใจ พร้อมยืนยันว่านายอัศนี เป็นว่าที่ผู้สมัครดังกล่าวในนามพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
นายพิชัย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรตอบรับให้นายอัศนี เป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่สมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการแล้วดังนั้นจึงเป็นตัวแทนพรรคมาให้กำลังใจนายอัศนี และว่าที่ผู้สมัครส.ท. 4 แขวง เพื่อยืนยัน และให้นายอัศนี ใช้สัญลักษณ์หรือโลโก้เพลง และนโยบายพรรคหาเสียงได้ เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ตอบรับ และสนับสนุนนายอัศนี มากขึ้น ส่วนผู้ช่วยหาเสียง ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ หรือผู้บริหารพรรค ว่ามาช่วยหาเสียงเมื่อใด
“ช่วงผมลงสมัครเป็นนายก อบจ.สมัยที่ 2 ในนามพรรคเพื่อไทยนายอัศนี ผู้บริหาร และสมาชิกกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมในเขตเทศบาล ได้มาฟังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงผม ปราศัยและประกาศสนับสนุนผมแบบ100 % ทางพรรคเห็นความตั้งใจและจริงใจของนายอัศนีและทีมงาน จึงมีหนังสือยืนยันและรับรองนายอัศนีดังกล่าว” นายพิชัย กล่าว
ด้านนายอัศนี กล่าวว่า สาเหตุที่มาสังกัดพรรคเพื่อไทย เพื่อประสานทำงานร่วมกับรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำทั้งด้านนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค การค้า ลงทุน การศึกษาและท่องเที่ยว เนื่องจากเทศบาลเป็นกลไกพัฒนาท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบพัฒนาเชียงใหม่กว่า 3,900 ล้านบาทแล้ว เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 70 %
นโยบายที่ใช้หาเสียง ส่วนใหญ่เป็นด้านเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ท่องเที่ยว และแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ ภายใต้การพัฒนาเมืองแบบบูรณาการและการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนพร้อมประสานงานกับ อบจ.เพื่อพัฒนาเมืองเชียงใหม่ไปพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดไม่ลงสมัครในนามกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมเพราะตระกูลบูรณุปกรณ์ เป็นผู้ก่อตั้ง และใช้หาเสียงมาโดยตลอด นายอัศนี ตอบว่า บูรณุปกรณ์ เป็นตระกูลใหญ่มีพี่น้อง 11 คน แต่ไม่ใช่บ้านใหญ่ของเชียงใหม่ ดังนั้นต้องยกระดับหรืออัพเกรดจากการเมืองท้องถิ่น เป็นระดับชาติแทน เนื่องจากคู่แข่งขัน ก็เป็นพรรคการเมืองระดับชาติเช่นเดียวกัน(พรรคประชาชน) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชาวเชียงใหม่ทตัดสินใจ สนับสนุนใครเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ สมัยหน้าด้วย
