อบจ. เชียงใหม่ อุดหนุนแนวเขตป้องกันไฟป่า 727 หมู่บ้าน 24 อำเภอ 10.99 ล้าน ลดผลกระทบฝุ่นควัน ตอบโจทย์สุขภาพดีใกล้บ้าน

วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียง ใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนงบประมาณดำเนินการควบคุมไฟป่าและฝุ่นควัน ระหว่างอบจ. กับมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควัน จ.เชียงใหม่ มีนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศรหรือ ส.ว.ก๊อง นายก อบจ.เชียงใหม่ นายสมชาติ วัฒนากล้า รองนายก อบจ. พร้อมนายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียง ใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมก่อนนายพิชัย มอบเงินอุดหนุนมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุนควัน จ.เชียงใหม่จำนวน 10,990,000 บาท ตามลำดับ

นายนิรัตน์ กล่าวว่า ภาพรวม 3 ปีที่ผ่านมา เชียงใหม่ มีการเผาพื้นที่ป่าและการเกษตร กว่า 1 ล้านไร่ ปัจจุบันเหลือ 600,000 ไร่ ลดลง 40 % จุดความร้อน หรือฮอตสปอต ลดลง 43 % ฝุ่นควันลดลงและคืนอากาศสะอาด 24 % ผู้ป่วยโรคทางหายใจลดลง 74 %

“ปี 67 ใช้นโยบายทำงานเชิงรุกมากกว่าดับไฟ ส่งผลให้ปัญหาดังกล่าวดีขึ้นทุกมิติ เพราะมีการไถกลบพื้นที่เกษตรกว่า 200,000 ไร่ รวมทั้งใช้มาตรการทางกฏหมายควบคู่ขอความร่วมมือทุกภาค และมาตรการการเผาแบบควบคมตามหลักวิชาการ ส่วนปี 68 มีมาตรการ 3 ด้าน คือ มติบริหารจัดการงบประมาณ มิติลดฝุ่นจากแหล่งกำเนิด ลดเผาในป่าอนุรักษ์ พื้นที่เกษตร ในเขตเมือง ที่เกิดจากยานพาหนะ ขนส่ง อุตสาหกรรม และโยธา มิติลดผลกระทบต่อสุขภาพ เปลี่ยนจากปลูกพืชเชิงเดี่ยว เป็นพืชยืนต้น ปรับโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัดระยะ 5 ปี เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน” นายนิรัตน์ กล่าว

นายพิขัย กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (2561-2580) ด้านการสร้างความเติบโตบนคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีวาระการปฏิรูประบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยเพิ่มประสิทธิภาพจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ เช่น มลพิษจากหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัดโดยเฉพาะเชียงใหม่ นั้น

ส่วนนโยบายด้านสขภาพและอนามัยประชาชน คือ “สุขภาพดีใกล้บ้าน” ด้วยการลดมลภาวะสิ่งแวดล้อม PM 2.5 และแสวงหามาตรการป้องกันมลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ในพื้นที่ 727 หมู่บ้าน ที่เป็นหมู่บ้านแนวเขตเฝ้าระวังไฟป่า ของ 24 อำเภอจาก 25 อำเภอ ที่ได้รับเงินอุดหนุนจาก อบจ. จำนวน 10,990,000 บาท ซึ่งเป็นการอุดหนุนนอกเหนือจากงบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย