วันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลา 09.30 น. นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) และคณะเดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการทำงานแก่กรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมกับเน้นย้ำให้กรมฯ ดำเนินงานและขับเคลื่อนภารกิจสนองนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น โดยมี นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ รมช.มหาดไทยพร้อมคณะผู้บริหารได้ร่วมพิธีเปิดตู้น้ำดื่มสะอาดฟรีบริการประชาชน และปลูกต้นรวงผึ้ง ณ กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6 โดยการประชุมมอบนโยบายมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Web Broadcast ให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานส่วนกลาง และสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรับมอบนโยบาย
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ จึงได้เน้นย้ำให้กรมฯ เร่งขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยเน้น 5 นโยบายหลัก ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือ 1) การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล 2) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 3) การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน 4) การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก และ 5) น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงปลอดภัย เศรษฐกิจ และความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการรับบริการจากภาครัฐ
รมช.มหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองมีภารกิจเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเมือง เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคของประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงขอให้กรมฯ เร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารสัญญาจ้าง และเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกันนี้ ให้เตรียมความพร้อมในการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ให้เป็นไปตามกรอบแนวทางและตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่สำนักงบประมาณกำหนด โดยมุ่งหวังผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ กรมฯ เป็นหน่วยงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งด้านงานโยธาธิการ และงานด้านผังเมือง จึงกำชับให้ กรมฯ สนับสนุนการบริหารงานของผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการในพื้นที่ โดยให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน พัฒนา ร่วมแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และเป็นที่ปรึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการถ่ายทอดองค์ความรู้ (Know how) เกี่ยวกับการใช้งานเครื่องมือเครื่องจักร โดยอาจจัดทำเป็นคู่มือที่มีความเข้าใจง่าย เพื่อให้สามารถใช้งานเครื่องมือเครื่องจักรได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงช่วยพัฒนาความรู้ เทคนิค หรือเพิ่มทักษะในการบังคับใช้กฎหมายให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย ทั้ง 4 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.ขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2547 และพ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ.2562 เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างถูกต้อง
ด้านนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมฯ พร้อมนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยมาเป็นแนวทางในการดำเนินภารกิจอย่างเคร่งครัด เต็มกำลังความสามารถ และต่อเนื่อง เพื่อบรรลุผลสำเร็จในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน โดยกรมฯ มีการจัดทำผังนโยบาย จัดทำผังเมืองรวม/ชุมชน ผังเมืองเฉพาะ การพัฒนาพื้นที่ตามผังเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ซึ่งภารกิจดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชน นำไปสู่การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและสามารถสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน ล่าสุด กรมฯ ได้ติดตั้งตู้น้ำดื่มสะอาด บริการประชาชน ตั้งอยู่บริเวณริมรั้วด้านหน้ากรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระรามที่ 6 ให้บริการประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ และที่สัญจรไปมา ฟรีไม่มีค่าบริการ ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และอำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและรับบริการจากภาครัฐ เป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคาดว่าจะต่อยอดนโยบายข้างต้นสู่กรมโยธาธิการและผังเมือง ถนนพระราม 9 ได้ในอนาคต
พร้อมกันนี้ ในปี 2568 กรมฯ ได้ “บูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน” โดยการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ใน 4 ภารกิจหลัก ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน โดยภารกิจด้านการผังเมือง ต้องมีความทันโลก ทันสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภารกิจด้านการพัฒนาเมือง ต่อยอดงานผังเมืองสู่นวัตกรรมการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองน่าอยู่และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ภารกิจด้านการอาคาร กฎหมายอาคารต้องมีความทันสมัย เชื่อมโยงเทคโนโลยี อาคารมีความปลอดภัยและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และภารกิจด้านการบริการด้านช่าง ยกระดับบริการงานด้านช่างสู่มาตรฐานระดับมืออาชีพ
สุดท้ายนี้ มท.3 ยังได้กล่าวถึงการประชุมรับฟังความคิดประชาชน (Public hearing) ในทุกโครงการต้องให้ความสำคัญกับความเข้าใจของประชาชนเป็นหลัก เพื่อประโยชน์อันสูงสุดของพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมการปรับปรุงนโยบายของกรมโยธาธิการและผังเมืองที่มีความทันสมัย และการพัฒนาระบบการจัดการผังเมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการทำงาน ซึ่งช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน