วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานพิธีมอบประกาศนียบัตรและเข็มวิทยฐานะโครงการเสริมสร้างความรู้สู่ความสัมพันธ์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 7 พ.ศ.2566 โดยมีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมสังคีตวัฒนา สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ซอยอรุณอัมรินทร์ 36 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
โอกาสนี้ นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการฯ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) โดยสถาบันอนุชิตพิพรรธน์ร่วมกับสำนักสิริพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จัดโครงการเสริมสร้างความรู้สู่ความสัมพันธ์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 7 พ.ศ 2566 เพื่อมุ่งหวังให้บุคลากรของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริ ได้เสริมสร้างความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ และร่วมเป็นเครือข่ายการดำเนินงานสนองพระราชดำริ เผยแพร่ขยายผลขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน รวมถึงเป็นกลไกสำคัญในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสืบสานงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงให้คงอยู่สืบไป ซึ่งในโครงการฯ มีการจัดอบรม 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) และหลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้และเสริมสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (พพร.) โดยบุคลากรที่เข้ารับการศึกษาอบรมมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน มูลนิธิ และสื่อมวลชน
ซึ่งในปีนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาอบรมทั้ง 2 หลักสูตร รวม 2 รุ่น จำนวน 107 คน ประกอบด้วย ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตร นบร. รุ่นที่ 11 จำนวน 54 คน และหลักสูตร พพร. รุ่นที่ 10 จำนวน 53 คน ในการนี้ องคมนตรีได้กล่าวให้โอวาทและบรรยายพิเศษเรื่อง “การดำเนินงานการพัฒนาตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”